วันเสาร์ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

การฝึกนิสัยและสังเกตพฤติกรรมสุนัข 3

การเปลี่ยนพฤติกรรมที่ก้าวร้าว
ถ้าลูกสุนัขแสดงความก้าวร้าว เช่น หวงอาหาร หวงของเล่น ขู่เวลาจับอาบนำ้ วิธีการสอนให้สุนัขรู้ว่าคุณคือเจ้านาย ก็คือการจับเขานอนตะแคงราบไปกับพื้น แล้วใช้มือกดคอเขาไว้(เหมือนแม่งับคอลูกเพื่อสั่งสอน) ให้คุณกดไว้อยางนี้จนกระทั่งเขายอมจำนน และคลายอารมณ์ลง(ให้ทำอย่างนี้หลายนาทีโดยเฉพาะที่เป็นครั้งแรก) คุณจึปล่อยมือออกมา แล้วอย่าลืมว่าให้พูดเรียกชื่อเขาอย่างนุ่มนวลระหว่างเวลาที่คุณกดมือลงไป วิธีการกำราบนี้ใช้ได้เฉพาะเวลาที่ลูกสุนัขของคุณประพฤติตนในทางที่ไม่ครวเท่านั้น ยกตัวอย่างเช่น ที่เขาแยกเขี้ยวยิงฟันใส่คุณเวลาที่คุณแต่งตัวให้เขา ไม่ต้องกังวลว่าเขาจะเจ็บ เพราะวิธีการกำราบแบบนี้จะไม่ทำให้เขาเจ็บ และนี่เป็นวิธีเดียวกับสุนัขที่อยู่ในตำแหน่งที่เหนือกว่า แสดงออกและทำกับลูกฝูงตัวที่เด็กกว่าให้เจียมเนื้อเจียมตัว
วิธีการแสดงว่าเราเหนือกว่า
ให้เราบีบปากสุนัขด้วยมืออย่างระมัดระวังแล้วปล่อยมือ ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งในการแสดงความเหนือกว่าของคุณต่อสุนัข และเป็นการเสริมความน่าเกรงขามให้กับตำแหน่งหัวหน้าฝูงให้คุณได้ดี ทุกคนในครอบครัวครวเข้าใจตรงกันว่า สุนัขอยู่ในสถานะที่เป็นน้องเล็กที่สุดในบ้านไม่ใช่เจ้านายและครวปฏิบัติกับเขาอย่างนั้น เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้สุนัขของคุณแสดงความเหิมเกริมและอยากเป็นใหญ่ ไม่ครวอนุญาตให้สุนัขขึ้นมานั่งบนโซฟาหรือนอนบนเตียงโดยที่คุณไม่ได้อนุญาตอย่างเด็ดขาด
ส่วนการที่เขาเห็นขาใครต่อใครในครอบครัวของคุณเป็น"สุนัขตัวเมีย" ก็เกิดขึ้นได้บ่อย แต่ไม่ได้แสดงว่าสุนัขของคุณ เขามีพฤติกรรมทางเพศที่ผิดๆ หรอก แต่สำหรับเขามันคือการแสดงความ "มีอำนาจเหนือกว่า" ต่างหาก แม้แต่สุนัขตัวเมียก็ตาม หากทำอย่างนี้จะถือว่าเป็นการกะทำที่แสดงออกต่อสุนัขที่มีตำแหน่งที่ตำ่กว่าดังนั้นคุณอย่าไปปล่อยให้พฤติกรรมแบบนี้เกิดขึ้นกับเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากสุนัขแสดงพฤติกรรมแบบนี้กับลูกๆ ของคุณ ให้พูดกับเขาเสียงแข็งๆ ว่า "ไม่" แต่หากยังเกิดพฤติกรรมแบบนี้ขึ้นอีก ก็ให้แสดงความเป็นเจ้านายหรือหัวหน้าฝูงของเขาด้วยการจับเขานอนตะแคง แล้วกดคอไว้ด้วยมืออย่างที่กล่าวมาข้างต้น
คุณครวเริ่มวิธีการนี้เสียตั้งแต่แรกๆ สามารถเริ่มได้ทันทีที่เขาเข้ามาอยู่ใมบ้านคุณใหม่ๆ และเริ่มคุ้นเคยแล้ว เพื่อที่ลูกสุนัขเล็กๆ ที่น่ารักของคุณได้เติบโตขึ้นมา เป็นสุนัขที่มีเสน่ห์และนิสัยดีในอนาคตและแน่นอนว่าการแก้ไขความประพฤติที่ไม่ถูกต้องที่เขาทำจนเคยชินแล้ว จะยากกว่าการสอนเขาตั้งแต่ต้นเป็นไหนๆ สุนัขตัวที่ไม่ได้รับการสอนจากคุณมาตั้งแต่ต้นนั้นจะเป็นปัญหาแน่เมื่อเขาอายุได้สักปีหรือสองปี ท้ายที่สุด พวกเขาจะต้องลงเอยด้วยการนำไปทิ้ง ให้เป็นปัญหาแก่สังคม ถ้าเขากลายเป็นสุนัขที่จ้องจะเข้าคุกคามและเป็นอันตรายต่อคน อย่างไรก็ดีสิ่งเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้น หากคุณได้เริ่มฝึกฝนเขาอย่างสมำ่เสมอตั้งแต่เขายังเล็กๆ
วิธีแบบโบราณที่จะให้สุนัขเชื่อฟังก็คือการเฆี่ยนตี คุณทราบไหมว่า สุนัขที่ถูกตีนั้นจะอยู่อย่างเป็นทุกข์และจะสามารถกัดหรือทำร้ายคนได้เมื่อเขารู้สึกกลัวพวกเขาจะไม่มีความมั่นใจในมนุษย์ ดังนั้นสิ่งที่คุณครวกระทำต่อสุนัขของคุณนั้นก็คือการให้ความสนใจเขา ชมเชยเขา และรักเขาอยู่เสมอ อย่าลืมว่าไม่เพียงสุนัขเท่านั้นที่เรียนรู้ ตัวคุณเองก็ต้องเรียนรู้เช่นเดียวกันว่าคุณครวต้องทำอะไรเพื่อให้สุนัขเข้าใจว่า เขาต้องปฎิบัติตัวอย่างไรจึงเป็นการเหมาะสม


วันศุกร์ที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

การฝึกนิสัยและสังเกตพฤติกรรมสุนัข 2

สุนัขที่ทำหูตั้ง
สุนัขที่กำลังทำหูตั้ง ตัวตรง แสดงว่ากำลังอยู่ในอาการที่เตรียมพร้อมที่จะทำอะไรบางอย่าง หรือฟังเสียงอย่างตั้งอกตั้งใจอย่างเฝ้าระวังตลอดเวลา
สุนัขที่ทำหูลู่หรือตก
สุนัขที่กำลังทำหูลู่หรือตกไปข้างหลังเสมอกับแนวศีรษะ ก็จะบ่งบอกถึงว่า สุนัขกำลังดีใจ ยอมแพ้หรือกลัว
สุนัขที่ทำตาหรี่
สุนัขที่กำลังทำตาหรี่ แปลความหมายได้สามอย่าง คือ1ไม่ได้มีความสุข 2กำลังเจ็บปวดจากภายในร่างกาย 3กำลังยอมแพ้
สุนัขที่ทำตาเบิกกว้างและลุกโพลง
สุนัขที่ทำตาโตเบิกกว้างและลุกโพลงแสดงว่าสุนัขกำลังจะแสดงอาการก้าวร้าวหรือกำลังเริ่มโมโห เหมือนอย่างเช่นในฝูงสัตว์ป่า หัวหน้าฝูงแสดงอาการเช่นนี้เพื่อควบคุมและดูแลบรรดาลูกฝูงที่ไม่เชื่อฟัง โดยการจ้อง ทั้งสองฝ่ายจะจ้องตากันจนกว่าจะมีฝ่ายใดเข้าทักทายหรือมีฝ่ายใดก้มหัว ฝ่ายที่ยอมแพ้ก็จะลดหัวของตนให้ก้มตำ่ลงแล้วหันกลับออกไป อย่างไรก็ดี หากการประจันหน้าของสุนัขที่เหนืิอกว่าและตัวที่ด้อยกว่ายังคงดำเนินอยู่ต่อไป แม้ว่าสุนัขตัวที่ด้อยกว่าจะหลีกทางไปแล้ว สุนัขที่ด้อยกว่านั้นอาจจะรู้สึกสับสนและแว้งกัดออกไปเพื่อเอาชนะความกลัวก็ได้ และหากการทำสงครามทางสายตานี้ ไม่มีทีท่าว่าจะสิ้นสุด สุนัขตัวที่เหนือกว่าก็จะเข้าคุกคามและสั่งสอนอีกตัวด้วยการแยกเขี้ยวคำราม ขู่ หรือตรงเข้ากัดทันที
การจ้องตาสุนัข
สุนัขที่จ้องตากับสุนัข หรือสุนัขกับคน มีสองอย่างคือจ้องตากันแบบแสดงความรักความอบอุ่นต่อกัน หรือจ้องตาท้าทายเพื่อการต่อสู้ที่กำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้า หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ยอมแพ้ คุณไม่ครวจ้องตากับสุนัขที่กำลังหงุดหงิดหรือโมโห เพราะจะเป็นการยั่วยุให้สุนัขเริ่มตรงเข้าทำร้ายคุณ สำหรับสุนัขที่แสดงอาการอยากจะเล่นอาจจะแสดงพฤติกรรม ด้วยการเหยียดอุ้งเท้า ออกมาหา หรือชวนคุณเล่นผ้า และเขาจะชอบเห่าเพื่อดึงดูดความสนใจ ส่วนกริยาท่าทางอื่นๆ ของสุนัขที่สามารถสังเกตได้ เช่นชวนคุณเล่นของเล่น หรือไล่งับเพื่อนๆ ของเขา เพื่อชวนให้เล่นวิ่งไล่กัน
เราต้องเป็นเจ้านาย
เมื่อสุนัขเข้าวัยหนุ่มสาวอายุได้ประมาณ 6 เดือน สุนัขเริ่มเป็นตัวของตัวเอง ไม่ทำตามคำสั่งที่เราเคยสอนให้ปฎิบัติตามคำสั่ง เช่น "นั่ง" "หมอบ" "มานี่" ในช่วงนี้ สุนัขจะทดสอบความสามารถของเจ้านาย ถ้าอ่อนแอหรือเขาแข็งแรงและมีพละกำลังมากกว่า สุนัขจะคิดว่าเขาจะเป็นผู้นำแทนเราได้หรือไม่ ดังนั้นคุณมีหน้าที่ที่จะต้องสอน และฝึกฝนวินัยให้เขา และทำให้เขารู้ให้ได้ว่าสถานะของเขานั้นอยู่ตรงไหนและแม้ว่าเขาจะโตเป็นผู้ใหญ่เต็มที่แล้ว คุณก็ครวจะฝึกวินัยให้กับเขาเป็นระยะๆ และอย่าลืมว่าการชมเชยเป็นสิ่งสำคัญมากๆ (สุนัขทุกตัวชอบเหมือนกันหมด)
เมื่อสุนัขแสดงความเป็นใหญ่เหมือนเป็นจ่าฝูงให้คุณรีบกำจัดความอหังการของเขาลงไป เช่น การที่ลูกสุนัขแสดงท่าทางหวงกระดูก หรือของกินกับคุณอย่าปล่อยให้เขาทำพฤติกรรมนี้กีบคุณ หากปล่อยเนิ่นนานไปมันอาจจะสายเกินแก้ หรืออาจกลายเป็นอันตรายหากสุนัขของคุณ ตัวโตจนคุณไม่สามารถบังคับได้ วิธีแก้ไข เวลาที่เขากำลังกินอาหาร ให้ดึงชามข้าวเขาออกมาบ้าง สุนัขครวยินยอมคุณแต่โดยดี หากเขาแยกเขี้ยวคำราม หรืออยากจะกัดเรา คุณต้องกำราบเขาทันที

วันพฤหัสบดีที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

การฝึกนิสัยและสังเกตพฤติกรรมสุนัข 1

สุนัขเป็นสัตว์ที่สามารถสื่อสารกับมนุษย์หรือสุนัขอื่นๆ ผ่านการแสดงอากัปกริยาต่างๆ นั่นรวมไปถึง การแสดงสีหน้าหลายๆ แบบ การทำท่าหลายๆ อย่าง เช่น การส่งเสียง หรือวิธีการดมกลิ่นรับรู้ภาษามนุษย์ได้ สามารถฝึกสุนัขให้สื่อสารกับมนุษย์ได้ ช่วยงานมนุษย์ในด้านต่างๆ มากมาย เช่น สุนัขตำรวจ สุนัขทหาร สุนัขนำทางคนตาบอด
การแสดงความเป็นใหญ่มีพละกำลังมากกว่าเหนือคู่ต่อสู้
สุนัขจะยืนตัวตรงคอตั้ง ขาเหยียดตรง หางและหูตั้งขึ้น ทำอกตั้ง ขนรอบคอชูชัน และเป็นแนวยาวตลอดสันหลัง โบกหางไปมาอย่างช้าๆ พร้อมขู่คำราม ในทางกลับกันสุนัขตัวที่กำลังยอมแพ้(หรือยอมจำนนต่อตัวที่เก่งกว่า) จะแสดงท่าว่าข้านี้ตัวกระจ้อยร่อย อาจจะนอนหงายท้อง หูรี่ ไม่สู้ แต่อย่างไรพอถึงตรงนี้สุนัขตัวโตมักจะสั่งสอนหรือดุลูกสุนัขตัวเล็กๆ แต่เขาจะไม่ทำร้ายเจ้าตัวน้อยอย่างแน่นอน
การแสดงการยอมแพ้
สุนัขตัวที่ยอมแพ้ว่าอีกตัวนั้นเก่งกว่าหรือเหนือกว่า หรือยอมรับและเกรงกลัวคนผู้เป็นเจ้าของ จะแสดงอาการยำเกรง ด้วยการเข้าไปหาสุนัขตัวที่เหนือกว่าหรือเจ้าของ ทางด้านข้าง โดยหมอบคลานเตี้ยติดพื้น หางตกแต่แกว่งไปมา นอกจากนี้ คุณยังจะพบอีกว่าเขาจะชอบเลียมือเลียไม้ เลียเท้าและอาจเลยไปถึงหน้า ของผู้เป็นเจ้าของ หรือสุนัขตัวที่เหนือกว่า แต่ถ้าเขายังเห็นว่าที่แสดงออกมานี้ยังแสดงอาการเอาใจได้ไม่มากพอ พวกเขาอาจจะเพิ่มอาการให้มากขึ้นไปอีก โดยลงไปกลิ้งหงายท้อง ซึ่งบางตัวอาจจะมีฉี่ออกมาด้วย
การแสดงความดีใจหรือเป็นมิตร
สุนัขจะกระดิกหาง หรือแกว่งหางอย่างแรงจนก้นสะบัดเป็นการแสดงอาการยินดีและความเป็นมิตร และลูกฝูงก็จะทำอากัปกริยาดีใจเช่นนี้เหมือนกันต่อฝูง
การแสดงอาการโกรธ
สุนัขที่แสดงว่ากำลังโกรธ จะขู่คำราม แยกเขี้ยว หางที่โบกอย่างช้าๆ เกร็งๆ อยู่ในระดับเดียวกับหลังของสุนัข
การแสดงอาการกลัว
สุนัขที่แสดงอาการกลัว มีความกังวนใจ กลุ้มใจ จะทำส่วนหางที่ห้อยตกอยูระหว่างก้นของสุนัข หรือแกว่งอย่างเกร็งๆ ตกอยู่ระหว่างก้น



วันจันทร์ที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

การฉีดวัคซีนสุนัข

ลูกสุนัขครวได้รับวัคซีนตามตารางที่สัตวแพทย์กำหนดให้ คือช่วงที่ลูกสุนัขมีระดับภูมิคุ้มกันจากแม่ลดต่ำลงจนระดับภูมิคุ้มกันเดิมในร่างกาย ไม่สามารถไปรบกวนการทำงานของวัคซีน ภูมิคุ้มกันจากแม่จะป้องกันโรคได้เพียงประมาณ 6-10 สัปดาห์หลังจากนั้นระดับภูมิคุ้มกันจะค่อยๆ ลดตำ่ลง ซึ่งลูกสุนัขอาจได้รับเชื้อและป่วยเป็นโรคได้ แต่ถ้าฉีดวัคซีนเร็วเกินไป ระดับภูมิคุ้มกันที่ยังมีอยู่ในลูกสุนัขจะต้านกับเชื้อในวัคซีนและไม่เกิดภูมิคุ้มกันขึ้น เราจึงครวให้ลูกสุนัขได้รับการฉีดวัคซีนเมื่ออายุประมาณ 2 เดือน
อายุ
อายุ 3-4 สัปดาห์ มีการถ่ายพยาธิ
อายุ 4-6 สัปดาห์ ฉีดวัคซนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ในลูกสุนัขที่แม่สุนัขไม่เคยฉีดวัคซีน
อายุ 6-9 สัปดาห์ ฉีดป้องกันโรคไข้หัดสุนัข และวัคซีนป้องกันโรคลำไส้อักเสบติดต่อ
อายุ 10-12 สัปดาห์ ฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หัดสุนัข และวัคซีนป้องกันโรคลำไส้อักเสบติดต่อซำ้
อายุ 3-6 เดือน ฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า
ตรวจอุจจาระ และถ่ายพยาธิ
อายุ 1 ปีขึ้นไป ฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าซำ้ ปีละ 1 ครั้ง
ฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หัดสุนัข และวัคซีนป้องกันโรคลำไส้อักเสบซำ้ ปีละ 1 ครั้ง
ตรวจสุขภาพ ตรวจอุจจาระ และถ่ายพยาธิ ทุก 6 เดือน
ตรวจพยาธิหนอนหัวใจ

วันอาทิตย์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

การตรวจสุขภาพสุนัข

1. ตรวจร่างกายภายนอก โดยการสำรวจลำตัวด้วยสายตาก่อนแล้วค่อยใช้มือลูบและคลำส่วนต่างๆ หากไม่พบส่วนผิดปกติ เช่น ก้อนเนื้อ ถุงนำ้ ก็แสดงว่าสุนัขไม่ได้เป็นอะไร ถ้าคลำถูกส่วนใดแล้วสุนัขแสดงอาการเจ็บปวด หรือพบที่ส่วนหนึ่งส่วนใดผิดปกติ ให้ปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อน ถ้าไม่ดีขึ้น ต้องรีบนำไปพบสัตวแพทย์ทันที
2. ตรวจใบหูดูว่าเป็นฝีหรือหนองหรือไม่ ข้อสำคัญหูต้องไม่มีกลิ่นเหม็น ไม่มีนำ้ ไม่มีเห็บ
3. ตรวจดวงตา กระจกตาต้องไม่เป็นฝ้าขาว ไม่มีบาดแผล เยื่อตาขาวเป็นปกติ
4. ตรวจปากและจมูก เปิดดูว่าในช่องปากมีบาดแผลหรือเหงือกอักเสบหรือไม่ ฟันมีหินปูนเกาะมากน้อยเพียงใด ดูจมูกว่ามีนำ้มูกไหลออกมาหรือไม่ เสียงหายใจเป็นปกติเพียงใด และลมหายใจมีกลิ่นหรือไม่ หากผิดปกติแม้ส่วนใดส่วนหนึ่งให้ปรึกษาสัตวแพทย์ทันที
5. สังเกตดูอุจจาระ ปัสสาวะ อุจจาระต้องไม่เหลว ไม่มีมูกและเลือดปน ปัสสาวะเป็นสีเหลืองอ่อนถึงเหลืองเข้ม ไม่มีเลือดปนเด็ดขาด

วันเสาร์ที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

การแปลงขน การตัดเล็บ

การแปลงขนสุนัข
สุนัขขนยาวครวแปลงขนบ่อยๆ เพื่อกๆจัดขนที่ตายแล้ว ทีไม่ยอมหลุดออกมาเพื่อเป็นการป้องกันการหมักหมมได้ ช่วยให้ขนไม่ร่วงกับพื้น ทำให้สุนัขขนเป็นเงางามเพราะการหวีหรือแปลงขน เป็นการกระตุ้นต่อมนำ้มันใต้รูขุมขนให้ผลิตนำ้มันทำให้ขนมันเงางามขึ้น
การตัดเล็บ
ครวตัดเล็บให้ลูกสุนัขถ้าเห็นว่ายาวเกินไป อาจไม่สะดวกอถ้าทิ้งไว้นานๆ จะทำให้นิ้วนั้นคดหรือแยกห่างออกจากกันแลดูไม่สวย และถ้าหากเล็บนั้นถอดหรือฉีกแตกแล้วจะทำให้เกิดเป็นแผลเป็นหนองทำให้สุนัขเจ็บปวดได้ ดังนั้นจึงครวหมั่นตัดเล็บส่วนที่ยาวออกมาขณะยังไม่ยาวมากนักอยู่เสมอด้วยที่ตัดเล็บสุนัข การตัดเล็บยังช่วยไม่ให้สุนัขเกิดบาดแผลอีกด้วย

วันศุกร์ที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

การอาบนำ้ลูกสุนัข

การอาบนำ้ลูกสุนัข
การอาบนำ้สุนัขช่วยกำจัดพยาธิภายนอกบางชนิด รวมทั้งช่วยปรับสภาพผิวที่แห้งหรือมันเกินไปครวค่อยราดนำ้ให้สุนัขได้ปรับตัว ถ้าไม่ระวังอาจทำให้เขาป่วยได้ เพราะอุณหภูมิร่างกายสุนัขนั้นสูงกว่าคนเรา จึงครวอาจนำ้ให้เขาในช่วงกลางวันขณะที่นำ้และอากาศไม่เย็นมาก หลังจากอาบเสร็จให้เช็ดตัวสุนัขให้แห้ง ถ้าเป็นสุนัขที่ขนยาวก็อาจใช้เครื่องเป่าผมเพื่อช่วยให้สุนัขไม่หนาวมากเกินไป ถ้าทำความสะอาดขนของเขาเป็นอย่างดี อาจไม่ต้องอาบนำ้บ่อยก็ได้ ครวใช้แชมพูอาบนำ้เมื่อขนของเขาสกปรกมาก มีกลิ่นตัว หรือมีหมัดเท่านั้น อย่าอาบนำ้ให้เขาเกินสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง เพราะถ้าอาบบ่อยเกินไปอาจทำให้ผิวหนังสุนัขแห้งและคัน ซึ่งจะมีปัญหาโรคผิวหนังตามมา และในขณะอาบนำ้ครวระวังนำ้เข้าหูสุนัขด้วย การเลือกแชมพูอาบนำ้ที่เหมาะสำหรับผิวของสุนัขเป็นสิ่งที่สำคัญครวเลือกที่ทำจากส่วนผสมที่ไม่ระคายเคืองต่อผิวและตาของสุนัข แชมพูสำหรับลูกสุนัขครวอ่อนโยนเช่นเดียวกับแชมพูเด็ก เพราะลูกสุนัขมีผิวที่บอบบางมาก สุนัขที่มีกลิ่นตัวครวใช้แชมพูที่ช่วยขจัดกลิ่นตัวและให้เขามีกลิ่นที่สะอาดสดชื่นขึ้น ถ้าสุนัขมีขนสั้นให้ใช้แชมพูที่ไม่ระคายเคืองผิวและตา แต่ถ้าเป็นสุนัขขนยาวให้ใช้แชมพูที่ผสมครีมนวด เพื่อช่วยให้ขนของเขาเงางามและสลวยขึ้น สุนัขจะชอบเล่นนำ้แต่ไม่ชอบอาบนำ้ เราครวฝึกอาบนำ้เขาตั้งแต่ยังเล็กให้เกิดความเคยชิน พอโตขึ้นจะอาบนำ้ไม่ยากแต่ไม่ครวอาบบ่อย แค่สัปดาห์ต่อ 1 ครั้งก็พอ
วิธีการอาบนำ้สุนัข
ครวใช้ก้อนสำลีอุดหูสุนัขเพื่อกันนำ้เข้าหู แล้วจับสุนัขยืนในอ่างนำ้ ใช้มือจับปลอกคอสุนัขแล้วใช้นำ้ (ถ้าเป็นนำ้อุ่นได้จะดี) ค่อยๆ ราดบนตัวสุนัขให้ทั่ว เพื่อให้สุนัขได้ปรับอุณหภูมิ ใช้แชมพูสำหรับสุนัขครวใช้ให้ถูกประเภท คือมีทั้งสำหรับขนสั้น ขนยาว ฟอกให้ทั่วตัว ยกเว้นบริเวณหัว ใช่แชมพูที่ไม่ระคายเคืองตาฟอกเฉพาะส่วนหัว จับสุนัขให้มั่นคงเพื่อป้องกันสุนัขสลัดนำ้ หรือกระโดดออกจากอ่างนำ้ ถูนวดย้อนขนจนแชมพูเป็นฟอง ระวังอย่าให้แชมพูกระเด็นเข้าตาสุนัข ถ้าเป็นแชมพูกำจัดเห็บหมัดต้องทิ้งไว้ตามที่บอกไว้ในฉลากด้วย ล้างแชมพูบริเวณหัวออก เช็ดให้แห้งก่อน จากนั้นจึงล้างแชมพูบริเวณลำตัว วิธีนี้จะช่วยป้องกันสุนัขจะสะบัดนำ้กระจายไปทั่ว
ใช้นำ้ล้างแชมพูออกให้หมดด้วยอีกครั้ง อาจใช้ครีมนวดปรับสภาพนวดขนแล้วล้างออกให้หมด บีบไล่นำ้ติดค้างตามขนออกให้มากที่สุด แล้วใช้ผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่เช็ดตัวสุนัขให้แห้ง จากนั้นเอาสำลีที่อุดหูออกและเช็ดในรูหูให้แห้ง ถ้าอาบนำ้ตอนเช้าหรือตอนเย็นอาจใช้เครื่องเป่าผมเป่าขนให้แห้ง โดยปรับอุณหภูมิปานกลาง และแปรงขนไปในทิศทางออกจากตัวสำหรับสุนัขที่มีอาการคันครวงดใช้เครื่องเป่าผม เพราะความร้อนจะทำให้คันมากขึ้น หลังการอาบนำ้สุนัขมักวิ่งไปทั่วอย่างสนุกสนานสบายตัว ครวระวังไม่ให้สุนัขไปเกลือกกลิ้งบนพื้นสกปรก(เป็นการพยายามสร้างกลิ่นตัวให้เหมือนสภาพแวดล้อมเพื่อเป็นสัญชาตญาณในการพรางตัวด้วยการไปคลุกกับสิ่งที่อยู่บนพื้นอีก)

วันพฤหัสบดีที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

การให้หัดขับถ่าย

การให้หัดขับถ่ายภายในบ้าน
ลูกสุนัขหลังจากการกินอาหาร ดื่มนำ้ มักจะเป็นเวลาที่ลูกสุนัขจะถ่ายอุจาระและปัสสาวะ หรือหลังจากตื่นนอนใหม่ๆ ลูกสุนัขเล็กๆ จะถ่ายวันละหลายครั้งิ ครวสังเกตถ้าเห็นลูกสุนัขก้มดมกลิ่นที่พื้น แล้วว่ิงวนไปรอบๆ แสดงว่าลูกสุนัขอยากถ่ายปัสสาวะหรืออุจจาระ คุณครวต้องรีบนำลูกสุนัขไปที่ที่จัดไว้ให้ลูกสุนัขถ่ายทันที ให้จับลูกสุนัขวางลงบนกระดาษหนังสือพิมพ์หรือกระดาษที่ดูดซับได้ดีและหาง่าย การเปลี่ยนกระดาษหนังสือพิมพ์ครวเหลือแผ่นเก่าไว้บ้าง เพื่อให้ลูกสุนัขจำกลิ่นและถ่ายที่เดิมอีก เมื่อลูกสุนัขขับถ่ายบนกระดาษแล้ว เจ้าของครวแสดงความชื่นชมสุนัขด้วยคำพูดหรือเอามือรูปหัวเบาๆ บอกว่า "ดีมาก" ถ้าสุนัขไปถ่ายในบริเวณอื่นก็ไม่ต้องดุหรือลงโทษ ไม่มีประโยชน์จะทำให้ลูกสุนัขกลัวเจ้าของ การจับสุนัขไปดมสิ่งขับถ่ายที่อยู่บนพื้นแล้วดุนั้นอาจใช้ได้กับสุนัขโตแล้วจึงจะได้ผล ครวรีบทำความสะอาดถ้าสุนัขถ่ายไม่ตรงกระดาษ โดยใข้ยาฆ่าเชื้อและยากำจัดกลิ่น อย่าใช้ผลิต๓ภัณฑ์ที่มีแอมโมเนียเป็นส่วนผสม เพราะอาจทำให้ลูกสุนัขคิดว่าเป็นกลิ่นของมันได้ และจะมาถ่ายซำ้ที่เดิมอีก
การหัดให้ขับถ่ายนอกบ้าน
ลูกสุนัขที่เริ่มโตต้องหัดให้ขับถ่ายนอกบ้านให้เป็นเวลา เจ้าของจะต้องหมั่นสังเกตว่า สุนัขแสดงอาการอยากขับถ่ายแล้วให้ใช้สายจูง เปิดประตูบ้านให้สุนัขออกไปที่ที่จะให้ถ่าย ยืนรอสักครู่เมื่อถ่ายแล้วค่อยจูงกลับ ครั้งต่อไปจะง่ายขึ้นเพราะเขาเริ่มคุ้นเคยและมีกลิ่นเก่าอยู่ด้วย ตอไปแค่เปิดประตูสุนัขจะออกไปขับถ่ายเองได้ ครวฝึกให้เป็นนิสัยพยายามให้สุนัขขับถ่ายในที่ห่างไกลจากตัวบ้าน ซึ่งสุนัขมักจะถ่ายปัสสาวะตรงที่เดิมเสมอ ปัสสาวะสุนัขเป็นกรด ซึ่งอาจทำให้หญ้าไหม้เป็นสีนำ้ตาลหรือตายได้ ครวราดนำ้ให้เจือจางได้จะดีมาก การหัดให้ลูกสุนัขถ่ายตามเวลาและสถานที่ที่กำหนดให้เป็นสิ่งที่ทำได้ แต่ต้องใช้ความพยายามและความอดทนพอสมครว

วันพุธที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

หลักการเลือกอาหารสำเร็จรูปของสุนัข

1.ต้องพิจารณาดูว่าสุนัขของท่านอยู่ในวัยใด เป็นเด็ก เป็นหนุ่ม หรืออยู่ในวัยชราแล้ว ครวจัดผสมสูตรของอาหารให้เหมาะสมกับวัยของสุนัข การผสมสัดส่วนของสารอาหารโดยผิดสูตร จะมีผลอย่างยิ่งต่อสุนัขที่ยังอยู่ในวัยเด็กอยู่
2.อาหารกระป๋อง หรืออาหารเม็ด ทั้ง 2 อย่างก็มีประโยชน์ต่อสุนัขของคุณเท่ากัน ขึ้นอยู่กับว่าสุนัขจะชอบทานอาหารประเภทไหน ถ้าเป็นแบบกระป๋องก็ทานง่าย เพราะมีกลิ่น มีนำ้ และรสชาติที่อร่อยกว่าแบบเม็ด
เทคนิคการให้อาหารสุนัขมี 3 วิธี คือ
1.ให้ไว้ล่วงหน้า โดยใช้อาหารเม็ดใส่ภาชนะตั้งไว้บนถาดมีนำ้กันมดขึ้น คำนวนตามปริมาณที่กินอยู่ประจำทุกวัน ครวตักเผื่อไว้นิดหน่อยด้วย กรณีนี้สุนัขคุณจะทานอาหารได้ทั้งวัน ทั้งคืน เป็นการสะดวกต่อเจ้าของที่มีธุรกิจมาก ไม่ค่อยจะอยู่บ้านเลี้ยงดูมัน ครวจัดนำ้ดื่มให้เพียงพอด้วย ไม่ครวให้เป็นอาหารสดเมื่อทิ้งไว้นานๆ จะทำให้บูดเน่าเป็นอันตรายต่อสุนัข ข้อเสียของการให้อาหารประเภทนี้ จะทำให้เราไม่รู้ได้เลยว่าสุนัขตัวไหนกินมาก หรือกินน้อย หรือตัวไหนไม่ได้กินเลย เพราะพฤติกรรมของสุนัขก็มักมีการเบ่งอวดความแข็งแกร่งถึงขนาดขู่ไม่ให้ทานอาหารเลยก็มี ซึ่งกรณีนี้เราจะล่วงรู้ได้อีกทีก็ต่อเมื่อสุนัขบางตัวของท่านซูบผอม หรือไม่สบาย
2.ให้อาหารแบบเป็นเวลา การกำหนดเวลาให้อาหารสุนัข จะทำให้สุนัขรู้เวลาของเขาโดยอัตโนมัต พอถึงเวลาสุนัขของท่านก็จะมารอกินอาหาร ถ้ายังไม่ได้ก็เรียกร้องที่จะขออาหารกินโดยการ เดินตาม หรือเห่าร้อง เอามือตะกายประตู หรือข้างฝา สุนัขบางตัวจะค่อยๆ กิน บางตัวก็จะรีบกินโดยไม่ตรวจสอบดูว่า อาหารในจานเป็นอะไร มีมากน้อยเพียงแค่ไหน ครวจำกัดเวลากินของสุนัขสัก 20-30 นาทีก็จัดเก็บอาหาร เก็บไว้ในมื้อต่อๆไป ลูกสุนัขที่มีอายุไม่เกิน 6 เดือน ครวให้กินวันละ 3 มื้อ 6-12 เดือน ครวให้กินวันละ 2 มื้อ อายุเกิน 1 ปี ขึ้นไป ให้กินวันละ 1 ครั้งก็พอ แม่สุนัขท้อง 1 เดือนแรกให้กิน วันละ 2 มื้อ เดือนที่สองให้กิน 3 มื้อ (ที่ฟาร์ม ให้ 2 มื้อเมื่ออายุ 45 วัน และดูสูตรอาหารที่มีโปรตีนสูง ประมาณ 33% เพราะถ้าลูกสุนัขอ้วนมากจะทำให้แม่สุนัขคลอดยาก)
3.ให้อาหารตามปริมาณการกินของสุนัขแต่ละตัว สุนัขแต่ละตัวมีพฤติกรรมการกินที่ไม่เท่ากัน บางตัวกินน้อย บางตัวกินมาก บางตัวหวงกินแย่งตัวอื่นกิน ตัวอิ่มแล้วไม่ให้ตัวอื่นกินในที่ของตัวเอง วิธีนี้จะเป็น วิธีการให้อาหารที่ดี ทำให้สุนัขได้สารอาหารในปริมาณที่มันต้องการ แต่คุณจะต้องมีเวลาที่จะคอยควบคุมการกินของบรรดาเหล่าสุนัขพวกนี้
ปัญหาที่ทำให้ผู้เลี้ยงสุนัขประสบอีกอย่างหนึ่งคือ ปัญหาการเปลี่ยนอาหารสุนัข พบว่าสุนัขบางตัว ปฎิเสธไม่ยอมรับอาหารใหม่เหล่านั้น วิธีที่ถูกต้องในการปรับให้สุนัขทานอาหารใหม่ ต้องทำแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยสัปดาห์แรกครวนำอาหารเก่าและใหม่มาคลุกรวมกันในอัตราส่วน 1 ต่อ 4 เพื่อไม่ให้สุนัขลืมรสชาติอาหารเก่า สัปดาห์ที่ 2 เพิ่มอัตราส่วนอาหารใหม่เป็น 1 ต่อ 2 พอสัปดาห์ที่ 3 ก็เพิ่มเป็น 3 ต่อ 4 และสัปดาห์ต่อไปก็ลองให้อาหารใหม่เพียงอย่างเดียว สุนัขของคุณก็จะเคยชินและยอมรับอาหารใหม่ไปโดยปริยาย
ปัญหาสุนัขไม่ยอมกินอาหารที่เปลี่ยนไป ปัญหาของผู้เลี้ยงสุนัขก็คือ สุนัขบางตัวทานแต่กับข้าวที่คลุกให้ จะไม่ยอมกินอาหารอย่างอื่น ทำให้ผู้เลี้ยงสุนัขไม่สบายใจกลัวสุนัขจะผอม ความจริงนั้นสุนัขปรับตัวเองได้ดีมาก มันจะสามารถทานอะไรได้ทุกๆ อย่างตามที่เราจัดหาให้มัน แต่ต้องค่อยเป็นค่อยไป เช่น จากทานแต่เนื้อสัตว์ก็ค่อยๆ เริ่มทานข้าว และผักอื่นๆ ได้ แต่ผู้เลี้ยงต้องใจแข็งคือถ้าให้แล้วไม่ยอมกินให้เก็บ แล้วมื้อต่อไปวางใหม่ ส่วนมากสุนัขจะทนหิวไม่ได้จะยอมกินเอง
การเปลี่ยนอาหารใหม่ให้สุนัขเป็นเรื่องที่ดี ดังกล่าวมาแล้ว เพราะจะทำให้สุนัขได้รับสารอาหารชนิดอื่นหมุนเวียนครบถ้วน

วันอังคารที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

การต้อนรับและเลี้ยงดูสมาชิกใหม่


การนำลูกสุนัขเข้าบ้านครั้งแรก ลูกสุนัขจะรู้สึกแปลกที เขาจะเดินสำรวจกลิ่นไปทั่ว รู้สึกสับสนเนื่องจากทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่รอบๆ ตัวเขานั้นเปลี่ยนไป รวมถึงเสียงและกลิ่นตางๆ ที่จะสร้างความแปลกใหม่ ตื่นเต้นให้ลูกสุนัขได้พอดู ปล่อยให้สำรวจสิ่งแวดล้อมใหม่ไปเรื่อยๆ คุณครวอยู่กับลูกสุนัขก่อนในระยะแรก เพื่อให้ลูกสุนัขคุ้นเคยกับเรามากขึ้นหลังจากเริ่มคุ้นเคยสถานที่ แล้วเขาจะเริ่มเข้ามาทำความรู้จักกับเราด้วยการดมๆ ตอนนี้เจ้าตัวน้อยจะยังคิดถึงแม่ของเขาอยู่ตลอด รวมทั้งพี่ๆ น้องๆ ในคอก และจะมองมาที่เราและสมาชิกในครอบครัวเป็นที่พึ่ง มอบความไว้วางใจให้เราเป็นผู้ปกครอง ทดแทนครอบครัวและเพื่อความปลอดภัยของเขาเอง พยายามเรียกชื่อเขาบ่อยๆ และช่วงนี้ก็เป็นเวลาน่าตื่นเต้นสำหรับคุณและสมาชิกในครอบครัวไม่น้อยเหมือนกันที่ได้เห็นความน่ารักน่าเอ็นดูของสมาชิกใหม่ตัวน้อย
1.เตรียมกรงหรือคอกกั้นเล็กๆ สำหรับลูกสุนัข 2-7 คืนแรกลูกสุนัขจะนอนไม่ค่อยหลับ และจะร้องเรียกเมื่อถูกทิ้งอยู่ตามลำพัง บางตัวอาจร้องอยู่หลายคืน ช่วงที่เขากำลังปรับตัวให้เข้ากับบ้านคุณอย่าดุ หรือพูดแรงๆ กับเขาในช่วง 2-7 วันแรก ไม่ว่าเขาจะแทะข้าวของคุณไปบ้าง หรือขับถ่ายเรี่ยราด ถ้าลูกสุนัขกำลังสับสน เขาอาจจะกลายมาเป็นกลัวคุณ แทนที่จะรักคุณก็ได้ ลูกสุนัขถ้ากลัวหรือเกลียดอะไรแล้วบางที
แก้ไขยาก มันจะติดตัวจนโตก็ได้
2.เตรียมปอกคอเล็กๆ ปลอกคอที่ใช้ครวจะสามารถ คลายสายออกได้ง่าย และครวตรวจเช็กปลอกคอบ่อยๆ ขยายปอกคอออกเมื่อลูกสุนัขตัวโตขึ้น อย่างเชือกจูงก็เหมือนกันอย่าไปซื้อโซ่กระตุกรัดคอสำหรับลูกสุนัขที่ยังเล็ก อาจทำให้สุนัขเจ็บได้ ครวเลือกเชือกจูงใช้งานให้เหมาะกับขนาดของลูกสุนัข เวลาที่คุณเลือกซื้อปลอกคอและสายจูงนั้นให้เลือกเอาทีทำจากไนลอน หรือหนังแบบนุ่มๆ ปลอกคอชนิดที่สามารถปรับให้ขยายได้เมื่อลูกสุนัขโตขึ้นนั้นเหมาะที่สุด หากสุนัขของคุณไม่เคยสวมปลอกคอมาก่อนเลย เขาครวจะเริ่มหัดสวมเดินเล่นอยู่ในบ้านสัก 2-3 วันเสียก่อน เมื่อสวมแล้วในตอนแรกเขาอาจจะเอามือปัดหรือเกี่ยวออก เพื่อที่จะให้เจ้าปลอกคอนั้นหลุดออกเสีย อย่างไรก็ดีจะเป็นอย่างนี้ไปไม่นานหรอกที่เขาจะเริ่มคุ้นกับปลอกคอที่คุณสวมให้ เวลาอยู่ในบ้านไม่จำเป็นที่ลูกสุนัขจะต้องสวมปลอกคออยู่ตลอดเวลา แต่ถ้าต้องออกนอกบ้านเขาไม่ครวจะออกไปโดยไม่ได้สวมปลอกคอ พอหลังจากสัปดาห์หนึ่งไปแล้ว ลูกสุนัขพอจะคุ้นเคยกับปลอกคอและเชือกจูงไปบ้างแล้ว คุณจึงจะสามารถนำลูกสุนัขออกไปเดินเล่นนอกบ้านได้
3. เตรียมหาของเล่นให้ลูกสุนัขแทะเล่น แก้มันเขี้ยวบ้าง ช่วยทำให้ฟันแข็งแรง ถ้าเป็นของเล่นที่มีเสียงก็ยิ่งดี และช่วยลดพฤติกรรมการชอบแทะข้าวของภายในบ้านลงได้บ้าง
การเรียนรู้ชื่อ
  1. หลังจากการตั้งชือให้ลูกสุนัขแล้ว ให้เรียกชื่อสุนัขบ่อยๆ ให้สุนัขจำชื่อตัวเองได้ ชืิ่อ ถ้าพยางค์ หรือสองพยางค์ สุนัขจะจดจำง่าย และสมาชิกในบ้านหรือญาติที่นานๆ มาทีก็จำชื่อได้ง่าย พยามหลีกเลี่ยงการตั้งชื่อสุนัขที่ซำ้กับชื่อคน เพราะอาจจะเกิดผิดใจกันโดยไม่ได้ตั้งใจ
การให้อาหารลูกสุนัข
ครวให้อาหารลูกสุนัขแบบเดิมไปสัก 1 สัปดาห์ก่อน โดยสอบถามผู้ขายว่าเขาเคยให้กินอาหารอะไร กี่มื้อ ปริมาณเท่าไร แล้วเราจะค่อยๆ เปลี่ยนอาหารให้เขาใหม่ อาหารลูกสุนัขครวจะมีสารอาหารที่ดรบถ้วน เพียงพอแก่ความต้องการในการเจริญเติบโตอย่างสุขภาพดีและพัฒนาการที่สมบูรณ์ และไม่ใช่ปริมาณอาหารเท่านั้นที่เป็นสิ่งสำคัญ แต่สัดส่วนที่ถูกต้องก็สำคัญเช่นเดียวกัน ไม่ครวให้อาหารที่ไม่สุก ไม่สะอาด หรืออาหารใกล้เสียกับลูกสุนัข อาหารสุนัขสำเร็จรูปสำหรับลูกสุนัขก็ดี เพราะสะดวกให้คุณค่าสารอาหารเหมาะสม ลูกสุนัขต้องการสารอาหารปริมาณมากเมื่อเทียบกับตัวเล็กๆของเขา เพื่อตอบสนองให้เพียงพอกับความต้องการของร่างกายที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ไม่ครวให้อาหารในปริมาณครั้งละมากๆ เพราะกระเพาะอาหารเขายังเล็กอยู่ ครวจะให้อาหารเป็นมื้อน้อยๆ หลายๆ ครั้งต่อวัน ประมาณ 3 มื้อต่อวันครวกินให้เป็นเวลา ถ้ากินไม่หมดให้ทิ้งเลย
ปริมาณอาหารที่เหมาะสมกับลูกสุนัขของคุณนั้นจะขึ้นอยู่กับขนาดอายุ พันธ์ุ และลักษณะส่วนตัวของเขา สุขภาพของลูกสุนัขจะเป็นตัวบ่งบอกที่ดีที่สุดว่าคุณให้อาหารเขาในปริมาณที่เหมาะสมหรือยังมากไปหรือน้อยไป แต่หลังจากที่เขาหย่านมแล้ว นมไม่ใช่อาหารหลักที่จำเป็นอีกต่อไป ลูกสุนัขและสุนัขโตนั้นหลายๆ ตัวไม่สามารถย่อยนำ้ตาลแล็กโทสในนมได้ ดังน้ันพวกเขาไม่สบายท้องเมื่อคุณให้เขากินนม แต่ถาให้กินต่อเนื่องมาส่วนมากจะไม่เป็นไร เช่น สัปดาห์ละ 1-2 ครั้งถ้าตัวไหนท้องเสียเกิน 2 วันให้หยุด ครวให้ทานนมตอนหลังอาหารไม่ครวทานตอนท้องว่าง
ระวังกระดูกชิ้นเป็นแหล่งของแคลเซียมและฟอสฟอรัส และยังช่วยให้ลูกสุนัขได้เคี้ยวเล่นสนุก แต่หากเศษกระดูกแตกออก และลูกสุนัขกลืนลงไป กระดูกจะทิ่มแทงปากหรือกระเพาะอาหารและเป็นอันตรายได้ ดังนั้นครวเลือกที่แตกแล้วไม่แหลม เช่น กระดูดสะโพกหมู กระดูกข้อต่อหมู ครวหลีกเลี่ยงกระดูกเป็ดกระดูกไก่ หรือจะให้ลูกสุนัขแทะกระดูกปลอมให้กับเขาแทน คุณครวจัดชามอาหารและถ้วยนำ้ให้สุนัขต่างหาก และภาชนะนี้จะต้องมีความสะอาด
สารอาหารที่จำเป็นสำหรับสุนัข สารอาหารที่จำเป็นสำหรับสุนัขที่กำลังเจริญเติบโตคือจะต้องการคาร์โบไฮเดรต โปรตีน วิตามิน ไขมัน แร่ธาตุ นำ้ จะแตกตางกันที่ปริมาณเท่านั้น หากต้องการจะทำอาหารให้สุนัขครวเป็นประเภท ข้าว เนื้อสัตว์ ผัก เป็นองค์ประกอบหลัก และปรับปรุงรสชาติให้น่าทาน เพราะสุนัขก็มีต่อมรับรสเช่นเดียวกัน หากอาหารที่คุณทำดีมีรสชาติถูกใจ มันก็จะเจริญอาหาร ทานจนพุงกางไปเลย ครวเปลี่ยนอาหารสลับหมุนเวียนกันบ้าง ไม่ครวให้เขาทานของซำ้ๆ กัน เพราะจะทำให้มันขาดสารอาหารชนิดใดชนิดหนึ่ง ทำให้เป็นปัญหาต่อสุขภาพในอนาคต
อาหารประเภทไข่ ไม่ครวให้ทานไข่ดิบหรือไข่ลวก เพราะโปรตีนในไข่จะไม่ดูดซึมเข้าสู่ร่างกายสุนัข ครวทำให้สุกโดยการทอด หรือต้มจะเป็นประโยชน์ต่อสุนัขของคุณมากกว่า
อาหารประเภทตับ หลายคนชอบให้สุนัขรับประทาน เพราะหาง่ายและสุนัขก็ชอบเหมือนกัน แต่ไม่ครวให้ทานทุกวัน การให้อาหารประเภทตับ เช่น ตับต้ม ตับย่าง แก่สุนัขทุกวันจะทำให้มีปัญหาเรื่องกระดูก เนื่องจากในตับไม่มีความสมดุลของแร่ธาตุที่เป็นองค์ประกอบในร่างกาย จะทำให้สุนัขของคุณเป็นโรคกระดูกบาง กระดูกหักง่าย หากต้องการให้สุนัขทานตับจริงๆ ก็ครวเพิ่มอาหารเสริมที่เป็นวิตามิน หรือแคลเซียมก็จะช่วยแก้ปัญหานี้ไปได้