วันอาทิตย์ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2553

ไวมาราเนอร์ Weimaraner

กลุ่มพันธุ์สปอร์ต พอยน์เตอร์ sporting Group- pointer

ดวงตาสีนำ้เงินหรือสีอำพัน รูปร่างเพรียวและขนเป็นเงาวาววับ ในราชสำนักไวมาร์ได้พัฒนาหมาล่าสัตว์นี้ขึ้นมาเพื่อใช้ในเขตป่าสงวนพันธุ์สัตว์ธูริงเกียน ที่เป็นสายเลือดแรงในการล่าสัตว์ของหมาพันธุ์นี้ก็คือ พันธุ์ไวสต์ชุนเป็นหมาบลัดฮาวด์สีแดงเข้ม พันธุ์ไวมาราเนอร์นี้ในชั้นแรกก็ตามกวาง หมี และหมูป่าที่ดุร้าย พอสัตว์ใหญในเยอรมันนีเหลือน้อยและหายากเข้า ก็เลยหันมาล่าและเก็บนก พันธุ์นี้มาลงตัวเมื่อต้นศตวรรษที่ 1800 แต่ก็เลี้ยงกันอยู่เฉพาะด้วยความหวงแหน จนไม่ค่อยจะรู้จักกันกว้างขวางนอกพื้นถิ่นที่กำเนิด
ผู้ทีเป็นตัวกำหนดชะตาหมาพันธุ์นี้ก็คือสโมสรนักกีฬาและเจ้าของหมาชั้นสูง ซึ่งจะยอมผสมหมาเฉพาะที่มีมาตรฐานชั้นเยี่ยมยอดเท่านั้น และเก็บเอาเฉพาะลูกที่ดีที่สุดเอาไว้ พวก"ผู้คุมการผสมพันธุ์" จะท่องเที่ยวไปทั่วถิ่น โดยบงการว่าลูกหมาตัวไหนจะทำลายเสีย ไม่เลี้ยงไว้ให้เสียพันธุ์ เจ้าของหมาก็ถูกจำกัดไว้ให้เลี้ยงลูกที่เพาะมาได้คราวละ 3-4 ตัว หมาพันธุ์ไวมาราเนอร์ไม่เอาเข้าประกวดโชว์หรือประกวดในทุ่ง และหากสมาชิกสโมสรจำนวนสามคนโหวตว่า "ไม่" แล้ว คนนอกไม่มีสิทธิ์ได้ลูกหมาไปเลี้ยงเลย
ในปี 1929 นายโฮเวิร์ด ไนต์ นักกีฬาจากเมืองโพรวีเด็นต์ โรดไอส์แลนด์ ได้รับอนุมัติให้เข้าเป็นสมาชิกในสโมสรเยอรมันแห่งนี้ จึงเป็นครั้งแรกที่หมาไวมาราเนอร์ได้ตกเข้ามาสู่อเมริกา ตัวแรกที่นำเข้าโรดไอส์แลนด์ และอีก 6 ตัวที่สั่งเข้าไปภายหลัง ได้กลายเป็นต้นตระกูลพันธุ์ที่ดีในอเมริกา
ในปี 1943 สโมสรอเมริกันเค็นเนล ได้ลงมติยอมรับพันธุ์นี้เข้าไว้ในทำเนียบ เจ้านักล่าสีเทาเงินจึงได้ไต่เต้าเป็นหมายอดนิยม และน่าจะกล่าวไว้ด้วยว่าหมาไวมาราเนอร์ชื่อ ไฮดี ของ ดไวต์ ดี.ไอเซนฮาวร์ นับเป็นหมาตัวแรกที่อยู่ในทำเนียบขาว นับตั้งแต่เจ้าตัวของประธานาธิบดี แฟรงกลิน ดี.รุสเวลต์ ซึ่งเป็นพันธุ์สก็อตติ ชื่อ ฟาลา ความมีจมูกแม่นและฉลาดของมัน ทำให้ง่ายแก่การฝึกเจ้าหมาล่าตามลูกเนินที่ทรงพลังชนิดนี้ เป็นหมาโตเร็วและเป็นหมาที่เลี้ยงได้เชื่องมาก เป็นหมาที่ภูมิฐานและรักบ้านรักนายเป็นอย่างยิ่ง
สูงเพียงไหล่ 23-27 นิ้ว น้ำหนัก 55-58 ปอนด์

วันจันทร์ที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2553

อิิงลิิิช พอยน์เตอร์ English Pointer




กลุ่มพันธุ์สปอร์ต -พอยน์เตอร์ Sporting Group- Pointer

เป็นหมาล่านกชั้นหนึ่งรูปร่างสวยเพรียว อันเป็นลักษณะที่ส่อถึงความรวดเร็วว่องไวและความทรหด เวลาออกตามกลิ่นปลายจมูกมักระดุกกระดิก กล้ามเนื้อเกร็งไปทั้งตัวพอนกกระทาขยับปีกนิดเดียวมันก็รู้เสียแล้ว เพราะหูของมันคอยฟังอยู่ทั้งเสียงนก เสียงปืน และเสียงทีนายสั่งอยู่ทุกขณะ
เชื้อสายของพันธุ์นี้ปรากฎในอังกฤษเมื่อประมาณ ค.ศ 1650 เจ้าของเอาไว้เสาะหาที่ซุ่มซ่อนของกระต่ายป่า แล้วตะเพิดกระต่ายออกมาให้หมาพันธุ์เกรย์ฮาวนด์วิ่งไล่กวด พอต้นศตวรรษที่18 เริ่มหันมายิงนกกันขึ้น พอยน์เตอร์พันธุ์นี้จึงมีบทบาทเป็นผู้ช่วยพระเอกก็คือเจ้าเกรย์ฮาวด์ แล้วมาเป็นดาราในการแสดงล่านกของหมา นอกจากพันธุ์เกรย์ฮาวด์แล้ว ยังมาเป็นพระเอกร่วมกับพันธุ์อื่นๆ อีกเช่น พวกพันธุ์เซ็ตเตอร์ ไอริช อิงลิช กอร์ดอน และไม่เคยเป็นลองใคร
แต่พอเกิดนิยม การยิงนกที่กำลังบิน ด้วยกระสุนตระกั่วลูกปรายกันขึ้น มันก็ไม่เร็วพอสำหรับนักกีฬาชาวอังกฤษไปเสียแล้ว เพราะพวกอังกฤษรักสัญชาตญาณในการ"ชี้นก" อันฉมังของมัน แต่ก็อยากจะได้หมาคู่ปืนที่ไม่ยืดยาดในถิ่นที่มีนก นักผสมหมาก็เลยเอาหมาพันธุ์สเเปนิชพอยน์เตอร์ อิงลิชฟ็อกซ์ฮาวนด์ บลัดฮาวนด์ และเกรย์ฮาวนด์มาผสมกัน ก็เลยได้หมาที่รวดเร็วว่องไวที่ชะเง้อคอสูงและดมกลิ่นนกจากที่สูงๆ ได้ดีเท่าๆ กับดมติดดิน ต่อมาก็เอาพันธุ์เซ็ตเตอร์เข้ามาผสมอีก ก็เลยได้พันธุ์อิงลิชพอยน์เตอร์มาใช้ในทุกภูมิประเทศ หมาพันธุ์ที่ผสมได้ใหม่นี้ได้จำแนกแจกจ่ายกันไปอย่างกว้างขวาง
ในประเทศอังกฤษซึ่งมีถินล่าสัตว์เล็กกว่าเมืองอื่น พันธุ์เซ็ตเตอร์เป็นที่นิยมมากกว่า ส่วนในสหรัฐน้ันจำเป็นที่ต้องใช้หมาที่รวดเร็ว ทำงานได้ในบริเวณกว้างขวางโดยควานไปตามพื้นดินอย่างละเอียดถี่ถ้วน และก็ไม่มีหมาพันธุ์ไล่นกบนเขาพันธุ์ไหนจะยอดเยี่ยมไปกว่าพันธุ์พอยน์เตอร์ ทั้งกำลังและความทรหด
พอยน์เตอร์เมื่อโตเต็มวัยจะพัฒนาได้เร็วกว่า พันธุ์เซ็ตเตอร์ มีความเป็นอิสระและชอบแข่งกันอยู่ในสัญชาตญานมากว่าเซ็ตเตอร์ เพราะฉะนั้นเวลามีการแข่งขัน"หมาล่านก"จึงมีพอยน์เตอร์เข้าประกวดในสนามที่สหรัฐมากกว่าพันธุ์เซ็ตเตอร์ 6 ต่อ 1
หมาพันธุ์พอยน์เตอร์จะเลี้ยงเอาไว้โชว์หรือจะเลี้ยงเอาไว้อวดความเก่งก็ได้พอๆกัน ขนที่เกรียนติดหนังของมันทำให้มุดซุ้มได้คล่อง นอกจากซุ้มที่หนาหนักหรือมีหนาม และเพราะขนที่เกรียนนี้เองจึงพอมองเห็นมัดกล้ามของมันได้ชัด มีสีขาว มีแต้มเป็นสีตับหมู สีมะนาว หรือสีดำ ทำให้มองเห็นได้ง่ายเวลาออกท้องทุ่ง
ลักษณะหัวเมื่อมองด้านข้างจะเป็นรูปเหลี่ยม คล้ายหัวของเซ็ตเตอร์แต่กว้างกว่า หางยาวตรงแข็งแรงและใหญ่เต็มที่โคนแล้วเรียวออกไปทางปลาย
ท่าทีสุภาพเรียบร้อย จัดว่าเป็นหมาล่าสัตว์อันดับผู้ดี จะเลี้ยงไว้เป็นหมาประจำบ้านก็น่ารัก ขนที่เกรียนเรียบก็ดูแลรักษาง่ายเวลาอยู่กับบ้าน
สูงเพียงไหล่ 24-27 นิ้ว นำ้หนัก 50-60 ปอนด์


วันพฤหัสบดีที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2553

ลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์ Labrador Retriever





กลุ่มพันธุ์สปอร์ต รีทรีฟเวอร์ Sporting Group- Retriever

รีทรีฟเวอรขนสั้นกำลังมากพันธ์ุนี้ ไม่ได้มาจากลาบราดอร์หากแต่มาจากนิวฟันด์แลนด์ ที่นิวฟันด์แลนด์นั้นเองที่เขาเรียกหมาพันธุ์นี้ว่าหมาของเซนต์จอห์น เพื่อให้มันต่างไปจากหมานิวฟันด์แลนด์ที่ตัวโตกว่า ที่เกี่ยวกับลาบราดอร์อยู่ก็คือ เรือประมงที่นำไปถึงอังกฤษเป็นคราวแรกต้นศตวรรษที่ 1800 นั้น มักจะล่องทะเลจับปลาคอดกันตามแนวชายฝั่งทีเปล่าเปลี่ยวทุรกันดารนั้นเอง
สัก 300 ปี ก่อนหน้านี้ ชาวประมงเชื้อชาติบาสก์และโปรตุเกสมักจะตระเวณชายฝั่งของนิวฟันด์แลนด์และลาบลาดอร์อยู่เป็นนิจ เพราะมันว่ายนำ้ได้ทรหดยิ่งนัก ปลาตกจากเรือหรืออวนที่ขาดหรือเชือกโยงขาดจากเรือ มันสามารถไปเก็บเอามาได้ เพราะฉนั้นเรื่องเก็บนกป่า ยามที่กะลาสีขึ้นบกเพื่อล่าสัตว์มาเป็นอาหารจึงเป็นเรื่องง่ายสำหรับมัน จึงเป็นเรื่องธรรมดาๆ ที่ชาวเกาะนิวฟันด์แลนด์จะต้องรักษาพันธุ์วิเศษอย่างนี้ไว้ และการมอบภาระในเรื่องเก็บนกนำ้ยามที่อากาศหนาวร้ายกาจรุนแรง ก็ย่อมจะต้องบำรุงพันธุ์ให้แกร่งกล้าอยู่เป็นธรรมดาเช่นกัน
ในอังกฤษนั้น ความสามารถของลาบลาดอร์เพื่อใช้เก็บนกจึงเป็นที่รู้กันในไม่ช้า และยอมรับนับถืออย่างยิ่งในความจมูกไวยามที่ต้องแกะรอยนกที่บาดเจ็บเช่น ไก่ฟ้า ได้แม่น ทั้งๆ ที่ในดงนั้นมีกลิ่นสัตว์อื่นสารพัด หรือเวลาตามนกเป็ดนำ้ ฝ่าดงกระต่ายป่าอันเป็นงานที่ยากแสนเข็ญมันก็ไม่เคยพลาด
กาลเวลาจะเปลี่ยนมานานสักเท่าใด แต่ความสามารถไม่เคยเปลี่ยน คงฝังอยู่สายเลือดไม่จืดจาง ลาบลาดอร์มีขาที่สั้นกว่าหมาเก็บนกชนิดอื่นๆ แต่รูปร่างลำ่สันบึกบึนกว่า แต่กระนั้นก็คล่องแคล่วว่องไวอย่างยิ่งทั้งบนบกและในนำ้
หมาที่ว่องไวประสาทดีและคุ้นคนชนิดนี้ จะฝึกให้ทำตามสัญญาณที่สลับซับซ้อนด้วยมือก็ได้หรือด้วยเสียงนกหวีดก็ได้ โดยทั่วไปเลี้ยงไว้เพื่อเก็บนกเท่านั้น โดยที่เห็นว่ามันสูงมากไป และตัวก็บึ้กบั้กเกินไปที่จะมุดซุ้มทึบๆ ที่หมาสแปเนียลเท่านั้นที่จะลอดเข้าไปได้ แต่ลาบลาดอร์ก็ยังใช้เป็นหมาคู่ปืนได้โดยทั่วๆไป หากไม่มีพันธุ์พอยน์เตอร์ เซ็ตเตอร์ หรือสแปเนียล
หมาลาบลาดอรืจำได้ง่ายที่ตรงหาง ซึ่งกลมและเรียวออกไปเหมือนหางตัวอ็อตเตอร์หรือนากพันธุ์หนึ่ง ขนเกรียนและดก ไม่อุ้มนำ้แต่เหมือนกับอาบนำ้มัันไว้ เพื่อป้องกันความหนาวได้ดี หิมะหรือโคลน หรือซุ้มก็จับไม่ติด ปกติสีขนมักจะดำ ไม่มีแซมสีอื่นหรือแต้ม นอกจากบางที่ก็เป็นจุดเล็กๆ ที่หน้าอก
สีทั้งตัวที่เป็นสีอื่นก็พอมีบ้างและสีเหลืองกำลังเป็นที่นิยมมากขึ้น หมาพันธ์นี้จะมียีนสำหรับสีเหลือง สีตาก็อาจจะเหลือง นำ้ตาลหรือดำ
สโมสรหมาอังกฤษได้รับรองพันธุ์นี้เป็นคร้ังแรกเมื่อปี 1903 และนับแต่นั้นมาก็มักจะชนะรางวัลในงานโชว์ของสโมสรอยู่เสมอๆ ส่วนในสหรัฐนั้นก็เป็นที่นิยมอย่างยิ่ง และเป็นผู้นำในหมู่รีทรีฟเวอร์ทั้งปวง เป็นเพื่อนพรานปืนโดยแท้ทีเดียว
สูงเพียงไหล่ 21 นิ้ว นำ้หนัก 55-75 ปอนด์

วันจันทร์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2553

รีทรีฟเวอร์ขนเรียบ Flat-Coated Retriever



กลุ่มพันธุ์สปอร์ต รีทรีฟเวอร์ Sporting Group- Retriever

ตามประวัติอ้างไว้หลายแห่งถึงการนำเอาพันธุ์พูเดิลและสแปเนียลของยุโรปมาเก็บนกนำ้ แต่ทุกวันนี้หมาที่เชี่ยวชาญสันทัดมักจะมาจากพวกหมานำ้แห่งนิวฟันด์แลนด์เป็นสวนมาก
รีทีฟเวอร์ขนเรียบก็เช่นกัน สืยเชื้อสายมาจากพันธุ์ลาบราดอร์ มีหลักฐานอยู่ว่าขนที่เรียบและหยักศกน้อยๆ ของมันนั้น ได้เลือดมาจากพันธุ์กอร์ดอนเซ็ตเตอร์หรืออาจจะมาจากพวกไอริชเซ็ตเตอร์ก็ได้เหมือนกัน มาโชว์ตัวในอังกฤษเป็นครั้งแรกที่เมืองเบอร์มิงแฮมเมื่อปี 1860 เจ้าขนเรียบนี้มีคนนิยมอย่างรวดเร็วเป็นหมาทุ่งและหมาโชว์ จนกระทั้งตอนต้นๆ ศตวรรษนี้ ก็มาพ่ายแพ้แก่"เจ้าหยิก" และลาบราดอร์ยุคใหม่
คร้ังหนึ่งมักถูกเรียกว่า "รีทรีฟเวอร์ขนสลวย" แต่ตอนหลังขนชักเหยียดมากเข้าจนมาได้ชื่อดังที่เรียกกันอยู่ขณะนี้ มีผู้เห็นหมาพันธุ์นี้ในอเมริกาอยู่หลายปีแต่ก็ไม่มีใครค่อยสนับสนุนจริงจัง แต่กระนั้นมันก็ยังรักษายี่ห้อของมันไว้ได้เมื่อเทียบกับรีทรีฟเวอร์อื่นๆ และหากถือว่าเป็นหมาเพื่อนคนแล้ว ไม่มีตัวไหนเกินหน้ามันไปได้ เป็นหมาว่ายนำ้แข็ง เป็นหมานำ้โดยธรรมชาติที่ชอบทำงาน ชี้นก เก็บนก และเอามาส่งนายได้อย่างน่ารักที่สุด ครั้งหนึ่งว่ากันว่าเป็นหมาปากแข็ง แต่ทุกวันนี้หาเป็นเช่นนั้นไม่
ขนของมันแน่น เรียบ ถ้าไม่สีดำก็สีตับ จะมีขนยาวแซมเล็กน้อยที่อก ตานั้นแจ๋วสำแดงท่าที และใหญ่ปานกลาง ได้สัดส่วนพอเหมาะ ไม่ห่างไม่ชิด และสีตาบางทีก็สีนำ้ตาล แต่ต้องไม่อ่อนกว่าสีขน
สูงเพียงไหล่ 21 นิ้ว นำ้หนัก 60-75 ปอนด์

วันศุกร์ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2553

รีทรีฟเวอร์ขนหยิก Curly-Coated Retriever


กลุ่มพันธุ์สปอร์ต รีทรีฟเวอร์ Sporting Group- Retriever

เพราะขนขมวดหยิกแข็งไปทั้งตัวตั้งแต่จุกบนหัวไปจนถึงปลายหาง ลักษณะที่เป็นนี้ก็เพราะเอาไปผสมข้ามพันธุ์กันระหว่างเซนต์จอห์นของนิวฟันด์แลนด์ กับไอริช วอเตอร์ สแปเนียล และเลือดทางสายหมาพูเดิลก็ทำให้ขนมันหยิกแน่นเข้าไปอีก เป็นพันธุ์แรกซึ่งจัดเข้าพวกหมาเก็บนกในอังกฤษและเป็นเลือดสำหรับเพาะโดยแท้ตั้งแต่ปี 1855 แล้วมาจำแนกออกไว้ต่างหากอีกในเมืองเบอร์มิงแฮมตอนต้นๆ ปี 1860
ทางสหรัฐมาเห็น "ไอ้หยิก" นี่เข้าเมื่อปี 1907 ก็เลยเอาไปเลี้ยง แต่ก็มีอยู่ไม่มาก ขนที่หยิกนี่แหละที่ช่วยไม่ให้ต้องสะท้านเมื่อโดนหนาวจัดๆ หรือลุยนำ้นานๆ และช่วยให้ทนทานต่อการลุยพงอ้อพงแขมได้ แต่เพราะความหยิกของขนนี้ ที่มักจะติดเอาโคลนตมและกิ่งไม้ติดตัวมาด้วย จึงต้องดูแลกันสักหน่อยในเรื่องนี้ มีสีดำสนิทหรือไม่ก็สีตับ
ในกระบวนหมาเก็บนกด้วยกันแล้ว เจ้าหยิกนี้มีขายาวที่สุดและรูปร่างบางที่สุด แต่มันก็แข็งแรงและว่ายนำ้เป็นว่าเล่น เป็นหมาที่รักนายและไม่ดื้อดึง จึงฝึกง่ายและมีความเพียรเยี่ยงพันธุ์เก็บนกอื่นๆ แล้วยังเป็นเพื่อนคนได้ดีด้วย
สูงเพียงไหล่ 24 นิ้ว นำ้หนัก 65-75 ปอนด์

วันจันทร์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2553

เชซาพีก เบย์ รีทรีฟเวอร์ Chesapeake Bay Retriever






กลุ่มพันธุ์สปอร์ต รีทรีฟเวอร์ Sporting Group- Retriver

ปี 1807 เรืออเมริกันชื่อแคนตอน ได้พบเรือใบสองเสาชักธงอังกฤษลำหนึ่งเข้าที่นอกฝั่งแมรีแลนด์ เรืออังกฤษลำนี้มาจากนิวฟันด์แลนด์และถูกพายุกระหนำ่เสียจนออกนอกทิศทางและกำลังจะอับปางลง เรืออเมริกันแคนตอนได้ช่วยทั้งกัปตันและลูกเรือของอังกฤษไว้ได้ และทีช่วยมาได้นั้นมีลูกหมาสองตัวซึ่งมีถิ่นกำเนิดในนิวฟันด์แลนด์มาด้วย ลูกหมาตัวผู้มีตับส่วนตัวเมียมีสีดำ ลูกหมาทั้งสองจึงถูกมอบให้เป็นของขวัญแก่ชาวอเมริกัน พอโตขึ้นปรากฎว่าทั้งสองตัวนี้เป็นหมาเก็บนกที่เก่งเป็นอย่างยิ่ง เป็นหมาที่เหมาะสำหรับการล่านกเป็ดนำ้ตามแนวชายฝั่งในอ่าวเชซาพีก
หมาทั้งสองตัวนี้เป็นลูกหลานของต้นตระกูลหมาที่ชาวประมงในนิวฟันด์แลนด์นำมาจากแคว้นบาสก์หรือส่วนหนึ่งส่วนใดในแหลมไอเบอเรียน จากภาพเขียนของเวลาเควซบางรูป ต้นศตววรษที่ 17 มีรูปหมาพันธุ์สเปนบางรูปที่ลักษณะคล้ายหมารีทรีฟเวอร์ของนิวฟันด์แลนด์พันธุ์นี้มากและเป็นรูปที่แสดงการล่านกอีกด้วย
หมาที่อยู่ในเรือกำปั่นสมัยโน้นจะต้องเป็นกะลาสีที่ชำนาญ เพราะต้องต่อสู้ทะเลร้ายและความหนาวเย็นที่สุด ในยามที่เรืออับปางลง ชาวเรือก็เอาเชือกเส้นเบาๆ ผูกมันเข้าไว้ แล้วเรียกมันโจนลงนำ้เข้าหาฝั่งท่ามกลางคลื่นหัวแตกลูกมหึมา ฝ่าหินโสโครกได้ จากพันธุ์ทรหดนี้เอง ลูกหมาสองตัวดังกล่าวตัวหนึ่งชือเซเลอร์ และอีกตัวชื่อแคนตอนได้สืบพันธุ์มา เมื่อเอามาผสมข้ามพันธุ์กับหมาท้องถิ่นแมรีแลนด์เข้าก็ยิ่งทั้งทรหดขยันขันแข็ง ไม่ย่อท้อต่อลมและนำ้
ปี 1885 พันธุ์นี้ก็เป็นที่เลื่องลือในความสามารถและนำ้ใจอันแกร่ง ทำงานได้ยอดเยี่ยมท่ามกลางที่ลุ่มราบยามฤดูหนาวของอ่าวเชซาพีก เมื่อครั้งกระโน้นอาจจะใช้หมาตัวเดียวเก็บนกเป็ดนำ้ได้มากถึง 200 -300 ตัว ในวันหนึ่งๆ และนับแต่นั้นมาพันธุ์เชซาพีกได้พิสูจน์คุณค่าของมันว่า เป็นหมาเก็บนกทั้งบนเนินและที่ราบลุ่มได้เสมอกัน หมาท้องถิ่นอเมริกันพันธุ์นี้เป็นที่นิยมและหวงแหนกันยิ่งนักในหมู่พรานทั่วสหรัฐและแคนาดา นอกจากนั้นมันยังข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกมาอวดชื่อเสียงของมันในวงการล่าสัตว์ของอังกฤษ
พันธุ์มินิโซตาเชซาพีก เป็นที่ต้องการในอเมริกาตะวันตกตอนกลาง เพราะทะเลสาปอันมากหลายและจำนวนนกนำ้ที่มากมายในถิ่นนั้น เป็นสภาพแวดล้อมอันเหมาะสมยิ่งนัก สำหรับเพาะและฝึกหมาพันธุ์เก็บนกพันธุืนี้
สีขนของเชซาพีกซึ่งเป็นสีแทนอมแดงหรือสีหญ้าแห้ง ก็นับเป็นลักษณะที่แตะตามากและเข้ากับภูมิประเทศอย่างดีไม่เป็นที่สังเกตได้จากฝูงนกนำ้ที่ระแวงอยู่เป็นนิจ ขนทีชุ่มนำ้มันเป็นเสมือนเกราะกำบังทั้งความหนาวเย็นจากอากาศและนำ้ ขนมีสองชั้น ชั้นนอกเป็นขนเส้นยาวหยาบเพื่อไว้ลุยพงหญ้า พงแขมและหิมะ ส่วนขนชั้นในเป็นขนอ่อนที่หนาทึบเพื่อเก็บความอบอุ่นไว้ในตัว สะบัดตัวเพียงครั้งเดียวก็ส่งนำ้ที่เกราะอยู่ปลิวว่อน และเมื่อเอามือแตะที่ขนของมันดูก็รู้สึกเพียงชื้นนิดๆ แทบไม่รู้สึก มีเท้าเป็นพังผืดระหว่างนิ้ว
หมาเชซาพีกไม่เป็นรองหมาชนิดใดเวลาอยู่ในนำ้ และชอบว่ายนำ้เล่นแม้ในวันที่มีอากาศหนาวที่สุด มันถึงกับขุุดหิมะให้แตกเพื่อแช่นำ้เล่นในยามฤดูร้อน
สูงเพียงไหล่ 23-26 นิ้ว นำ้หนัก 64-75 ปอนด์

วันพุธที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2553

โกลเดน รีทรีฟเวอร์ Golden Retriver





กลุ่มพันธุ์สปอร์ต รีทีฟเวอร์ Sporting Group- Retriver

ดูจากสีขนที่เหลืองเป็นสีทองไปทั้งตัว ประกอบกับใบหน้ากว้างและดูปราดเปรียวแล้ว ลักษณะทุกอย่างของพันธุ์นี้ส่อให้เห็นถึงทีท่าอันสุภาพเป็นมิตรทั้งสิ้น ใช่ว่าจะสวยแต่รูปความสามารถในท้องทุ่งก็ไม่เบาทีเดียว ทรหดไม่แพ้พันธุ์เก็บนกชนิดอื่นๆ หรือพวกพันธุ์สแปเนียล ในระหว่างฤดูหนาวของแคนาดาซึ่งหนาวมาก มันก็ยังลุยนำ้เก็บนกเป็ดนำ้ได้สบาย
เจ้าสีทองพันธุ์นี้มีลักษณะที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ระหว่างทศวรรษที่ 1860 ในอังกฤษแม้ว่าการสืบเชื้อสายของมันยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่
เล่ากันมาว่าท่านเซอร์ดัดเลย์ มาร์ยอรี แบงก์ส ซึ่งต่อมาเป็นลอร์ดทวีดมัธได้เกิดชอบอกชอบใจฝูงหมาฝูงหนึ่งที่พวกนักแสดงชาวรัสเซียเขาเอามาแสดง ก็เลยขอซื้อไว้ทั้งฝูง
หมาสีทองตัวเบ้งๆ เหล่านี้เป็นพันธุ์ที่เลื่องลือกันว่าชอบอิสระและปัญญาไว ซึ่งใช้เลี้ยงแกะกันในแถบคอเคซัส ท่านลอร์ดเห็นว่าตัวมันเบ้งนักก็เลยคิดจะลดขนาดมันลงมา แต่เพิ่มสมรรถภาพในทางดมกลิ่นของมันให้มากขึ้น เลยเอามาผสมกับพวกบลัดฮาวนด์
บ้างก็บอกว่าที่แท้ท่านลอร์ดไปซื้อเอาลูกหมาสีเหลืองๆ ตัวหนึ่งซึ่งเป็นลูกโทนในครอกของหมาพันธุ์เก็บนก สีดำๆ ขนสลวยเป็นลอนๆ มา แล้วต่อมาไปได้ลูกหมาที่หายากอย่างนี้อีกตัวหนึ่ง แล้วก็คัดพันธุ์เพาะมานานหลายชั่วหมา จึงได้พันธุ์นี้ในที่สุด
โกลเดนรีทรีฟเวอร์นี้ปรากฎเป็นครั้งแรกในอเมริกาเมื่อตอนต้นทศวรรษที่ 1900 และเป็นที่นิยมอย่างกว้างขวางในที่น้ันนับแต่ทศวรรษที่ 1930 เป็นต้นมา
ขนที่ไม่เปียกนำ้หากไม่เหยียดก็เป็นลอน มีสีครีมแถมตามปลายเส้นขนตอนที่เป็นพวง ในฐานะที่เป็นหมาเก็บนกจะเก็บบนบกหรือในนำ้ก็ได้ทั้งนั้น เวลาอยู่บ้านก็เป็นสมาชิกที่ดีตัวหนึ่งในครอบครัว ในกระบวนหมาเก็บนกทั้งปวง เจ้าสีทองพันธุ์นี้มักจะเป็นหมาเลี้ยงในบ้านอยู่เสมอ
สูงเพียงไหล่ 21.5-24 นิ้ว นำ้หนัก 60-75 ปอนด์