หมาหลังอานนั้นมักจะฉลาด ทั้งๆที่มันมีเลือดผสม สมาคมสุนัขพันธุ์อเมริกาเอง มายอมรับนับถือว่าเป็น สุนัขพันธุ์ใหม่เมื่อปี 1955 โดยถือว่าเป็นสุนัขพันธุ์บริสุทธิ์ ลำดับที่ 112 มามีชื่อ เพราะประวัติของพันธุ์นี้ในแอฟริกา ในท้องถิ่นกำเนิดของพันธุ์นี้มีความไม่ย่อท้อสามารถเอาชนะสิงโตให้จนมุมได้ จึงได้สมญาในถิ่นนั้นว่า " หมาล่าสิงห์แห่งอัฟริกา "
ตอนที่พวกดัตช์ เยอรมัน ฮูยือโนต์(ฝรั่งเศสนับถือนิกายโปแตสแตนต์) มาตั้งรกรากถิ่นฐาน ขึ้นในอัฟริกา ในศตวรรษที่ 17 และ 18 ได้พาสุนัขพันธุ์ เกรดเดน บลัดฮาวนด์ และพันธุ์ยุโรปอื่นๆ ซึ่งมาผสมข้ามพันธุ์กัน กับพันธุ์ที่ พวกฮ็อตเต็นต็อต คือ คนท้องถิ่นเผ่านีกรอยด์ในแอฟริกาใต้ ใช้ล่าสัตว์ สุนัขพันธุ์แอฟริกา นั้นหลังอาน จึงเป็นต้นเรื่องของการเอาชื่อ มาเป็นชื่อพันธุ์
ขนที่แบนราบและตั้งเป็นสันกลางหลัง เป็นสันตั้งแต่เอวจนถึงไหล่ และเส้นขนทวนกลับทาง ของขนเส้นอื่นซึ่งสั้นเกรียนและเป็นเงาเป็นหมาที่เหมาะเจาะกับวิถีดำเนินชีวิตในแอฟริกา ปราดเปรียวและองอาจ ทรหดแม้ในเรื่องกินอยู่ กลางวันร้อน กลางคืนหนาวก็ทนได้ อดนำ้ได้ถึง 24 ชั่วโมง เฝ้าไร่เฝ้านา ทีเปลี่ยวๆ ได้ และเป็นเพื่อนอย่างดีแก่สตรีและเด็ก
ในปี 1877 มิชชันนารีผู้หนึ่งได้นำไปเลี้ยงที่เมืองโรดีเซีย พวกพรานล่าสัตว์ใหญ่ชอบใจนิยม ในความทรหด องอาจ ตลอดจนจมูกและตาอันฉับไวของมันนั้นเอง เกิดประโยชน์อย่างยิ่งแก่นักล่าสัตว์ที่ใช้มันเป็นฝูงแกะรอยสิงโต ซึ่งมันก็จะล้อมหน้าล้อมหลังจนกระทั้งนายซึ่งขี่ม้าตามมาทันสังหาร
พวกนักเลี้ยงหมาใว้ดูเล่นในโรดีเซียก็ได้เพาะพันธุ์ให้เข้ามาตรฐานในปี 1922 และมาถึงสหรัฐในช่วงปี 1930 เป็นหมาเงียบๆและเรียบร้อย รับตัวเองเข้ากับชีวิตในเมืองหรือในชนบทก็ได้ ฝึกก็ง่าย ชอบเด็กและมักชอบประจบนาย
สีของหลังอาน เป็นสีอ่อนเหมือนสีข้าวสาลี จางบ้างแก่บ้างซึ่งบางทีก็มีด่างบ้างตามเท้าและอก เป็นหมาหูตก ไม่ถึงขั้นตูบและมีหางยาวเรียวสูงเพียงไหล่ 24-27 นิ้ว นำ้หนัก 65-75 ปอนด์
ที่มา : สัตว์เลี้ยงแสนรัก โดย จำเนียร เหมะรัต


ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น