วันอาทิตย์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

อเมริกัน ฟ็อกซ์ฮาวนด์ American Fox Hound



กลุ่มพันธุ์ฮาวนด์ อเมริกัน ฟอกซ์ ฮาวนด์Hound Group American Fox Hound

ขาของหมาพันธุ์นี้เรียวๆ กว่า และตัวเบากว่าอิงลิช ฟ็อกซ์ฮาวนด์ เดอ โซโต ได้นำฮาวนด์ตัวแรกเข้ามายังโลกใหม่เพื่อแกะรอยพวกอินเดียแดง ในปี1650 โรเบิร์ต บรุก ตั้งถิ่นฐานลงในแมรีแลนด์พร้อมด้วยฟ็อกซ์ฮาวนด์ทั้งฝูง ยอร์จ วอชิงตัน นำหมาพันธุ์อังกฤษมาเลี้ยงไว้เมื่อปี 1770 และได้รับของขวัญเป็นหมาล่ากวางพันธุ์ฝรั่งเศสที่มีหูยาวจาก นายพล ลาฟาเเย็ด เมื่อปี 1785 หมาสองพันธุ์ก็เลยผสมกัน และอาจเป็นบรรพสุนัขของอเมริกันฟอกซ์ฮาวนด์ในทุกวันนี้ ชาวแมรีแลนด์และชาวเวอร์จิเนียที่ขี่ม้าได้เก่งแต่ไม่ค่อยชอบแบบฉบับการล่าของอังกฤษยามเมื่อควบตามฝูงหมา พอนักล่าเห็นตัวเหยื่อ ก็มักแหกปากร้องลั่นไปทั้งท้องทุ่ง อาจเป็นต้นกำเนิดของเสียงร้อ
งโห่ยามเมื่อทหารฝ่ายเหนือฝ่ายใต้ประจัญบานกันในยุคสงครามกลางเมืองนั้นเอง
นักควบอาชาที่กวดหมาจิ้งจอกไปตามทุ่งในฟิลาเดลเฟียที่เพิ่งตั้งเมืองใหม่ตลอดจนในไร่ของแมนฮัตตันตอนบน หรือการล่าหมาในบรุกลินนั้นเพิ่งมาสั่งห้ามกันเมื่อไม่ถึง100 ปีมานี้เอง
กีฬาดังกล่าวเป็นแบบฉบับของการล่าหมาจิ้งจอกในรูปแบบต่างๆ แล้วแต่ว่าจะเป็นภูมิภาคไหน ต่างก็มีชื่อของผู้เพาะเลี้ยงรายฉมังๆ ไว้เช่น มอบิน วอล์กเกอร์ ทริกก์ เบิร์ดซอง และอื่นๆ ต่างพวกต่างก็เหมาะกับวิธีล่านั้นๆ
หมาจิ้งจอกในอเมริกานั้นหายากกว่าในอังกฤษ และกลิ่นหมาจิ้งจอกในดงทึบและภูมิประเทศที่เป็นขุนเขาก็ตามยาก ฉะนั้น อเมริกันฟ็อกซ์ฮาวนด์จึงต้องอาศัยจมูกที่ไวและแม่นเป็นพิเศษ หมาที่แกะรอยติด จะตามหมาจิ้งจอกที่ว่องไวรวดเร็วไปไม่ลดละ ฝ่าพื้นภูมิประเทศที่ทุรกันดารไม่ท้อถอย มีฝีเท้าที่เร็วสุดยากที่นักอาชาจะตามทัน นักล่าจะตามได้ถูกก็เพราะเสียงเห่าหอนของมันไปตลอดทาง หมาพันธุ์ฝรั่งเศสของ ยอร์จ วอชิงตันนั้น กล่าวกันว่าร้องเพราะมีกังวานประดุจ "เสียงระฆังในกรุงมอสโก"
ยามคำ่คืน หมาพวกนี้จะตามกลิ่นหมาจิ้งจอกไปจนกระทั่งหมาจิ้งจอกมุดเข้ารูเข้าโพรง มันจะเฝ้าอยู่อย่างนั้นจนกระทั่งเจ้าของเป่าปากเรียกนั้นแหละ มันจึงจะวิงกลับมาไกลเป็นไมล์ๆ เพื่อกลับบ้าน ซ่ึงนับว่าเก่งไม่น้อยที่จับทิศทางกลับบ้านได้แม่น อเมริกันฟ็อกซ์ฮาวนด์นั้น หูยาวและตาโศก มีเสียงหอนที่เพราะ
สูงเพียงไหล่ 21-25 นิ้ว นำ้หนักประมาณ 70 ปอนด์

วันเสาร์ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

กลุ่มพันธุ์ฮาวนด์Hound Group อิงลิชฟ็อกซ์ฮาวนด์English Foxhound



อิงลิชฟ็อกซ์ฮาวนด์ English Foxhound

ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของทีมหมาล่าจิ้งจอก ชีวิตอันเริงรื่นชื่นใจก็ตอนที่แห่ข้ามทุ่งในอังกฤษกันเป็นฝูงๆ นั่นแหละ เรื่องการล่าหมาจิ้งจอกของพันธุ์นี้ เป็นกิจกรรมมาตั้งแต่ยุคกษัตริย์ในสมัยกลาง โดยเจริญรอยตามอย่างหมาล่ากวางป่าที่ตัวใหญ่กว่าและถือว่าเป็นบรรพสุนัขของมัน
ยุคที่โอลิเวอร์ ครอมเวล ครองอำนาจอยู่นั้นเขาได้ล้างป่า ล่ากวางเสียหลายแห่ง แล้วก็บังคับให้พวกนักล่ากวางหันไปล่าหมาจิ้งจอกแทน ในศตวรรษที่ 18 ดยุคแห่ง
โบฟอร์ด ซึ่งกำลังกลับจากการล่ากวาง เกิดปล่อยหมาให้ตามกลิ่นหมาจิ้งจอกไป ดยุคก็เลยต้องห้อม้าตามฝูงหมาข้ามทุ่งข้ามท่าไปลิบลับ อันเป็นเหตุให้เกิดความคึกคักสนุกสนานเป็นอย่างยิ่ง การล่าหมาจิ้งจอกก็ลยเป็นที่นิยมของชนชั้นสูงจนถึงชนชั้นกลางและชนชั้นล่าง
คำขวัญของกีฬาล่าหมาจิ้งจอกมีอยู่ว่า"จะเลือกเอาหมาจิ้งจอกที่ตายหรือจะเอาคอตนเองหัก"อันเป็นการกระตุ้นสปิริตของบรรดาทหารและนักการทูตของอังกฤษทั้งหลาย จนกลายเป็นที่ลือเลื่องไปทั้งในวรรณกรรมและจิตรกรรมที่แสดงไว้เป็นลายลักษณ์อักษรและรูปภาพที่แสดงว่า"การล่านี้เป็นกีฬาของพระราชา"ดังที่นาย ยอร็อกส์ ได้พรรณาไว้ว่า"ได้รับรสแห่งความตื่นเต้นประหนึ่งทำการสัปยุทธ์โดยไม่บาดหมางใจและเสี่ยงภัยแค่ 25เปอร์เซ็นต์เท่านั้น"
การเพาะพันธุ์และเลี้ยงอย่างระมัดระวังได้ทำให้อิงลิชฟ็อกซ์ฮาวนด์ ทำงานได้เหมาะสมอย่างยิ่งกับสายพันธุ์เกรย์ฮาวนด์ ได้ทำให้ขาของมันยาว ตรง วิ่งเร็ว และมีความอดทนสูง ฝูงที่ดีๆ และเก่งๆ อาจจะนำฝูงม้าของนักล่าข้ามทุ่งไปได้ไกลๆ ถึง 75 ไมล์ อกเป็นรูปสีเหลี่ยมและตีนนุ่มเหมือนแมว ขนาดและฝีตีนของมันนั้นแตกต่างกันไป แล้วแต่ว่าภูมิประเทศอย่างไหนตั้งแต่ที่เป็นลูกเนินไปจนถึงที่เป็นเขา หรือชันดิกอย่างในไอร์แลนด์ แต่ก็ไม่เร็วไม่ช้ากว่ากันมากนัก
สีแบล็กแอนด์แทนคือดำนำ้ตาลนั้น แต้มตามตัวมันทับสีพื้นที่ขาวมากบ้างน้อยบ้าง นักเพาะหมาบางรายก็ต้ังใจจะให้มีสีสมำ่เสมอเหมือนกันหมดทั้งฝูง และต่างก็เลือกเอาตัวที่เห่าหอนได้เสนาะโสต
การล่าหมาจิ้งจอกเป็นกีฬาที่ติดตามชาวอังกฤษไปทุกแห่งหนในโลก ท่านลอร์ดแฟร์แฟ็กซ์ได้นำเอาหมาฮาวนด์
ของอังกฤษมาที่รัฐเวอร์จิเนียเมื่อปี 1738 และฝูงหมาล่าพันธุ์นี้ก็ยังมีหอนเห่าอยู่ตามท้องทุ่งในออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์อยู่ตราบเท่าทุกวันนี้ หมาฮาวนด์ที่ขลิบหูและมีหัวชูตรงตามแบบฉบับของหมาอังกฤษก็ยังอยู่ในทุ่งหญ้าแคนาดาตามกลิ่นหมาจ้ิงจอกที่คนหลอกเอาขี้ม้าโรยไว้เพื่อล่อหมา
สูงเพียงไหล่ 23-25 นิ้ว นำ้หนักประมาณ 85 ปอนด์

วันศุกร์ที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

กลุ่มพันธุ์ฮาวนด์ Hound Group บาสเซ็ตฮาวนด์ Basset hound

บาสเซ็ตฮาวนด์ BassetHound

หมาบาสเซ็ตสืบเชื้อสายมาจากหมาฮาวนด์พันธุ์แซงต์ฮูแบรต์ซึ่งใช้แกะรอยจนพบสัตว์แล้วตะเพิดออกมาจากที่ซุ่มซ่อน เนื่องจากเพาะพันธุ์กันมา
โดยฝีมือพวกพราน หมาตวลำ่ม่อต้อย่อมๆนี้เองจึงสามารถแกะรอยกวาง หมาป่า หมูป่าในป่าภาคเหนือยุโรป จนถึงขั้นตามหมาจิ้งจอกและ เกมอื่นๆ ได้
พรานฝรั่งเศสในศตวรรษที่ 16 มักจะใช้บาสเซ็ตตามกลิ่นตัวเบ็ดเยอร์ ซึ่งเป็นสัตว์ชนิดหนึ่งขนาดเท่าหมาจิ้งจอก ตีนมีเล็บอย่างหมี และขุดโพรงอาศัยอยู่
ในดิน ต้องใช้บาสเซ็ตที่ฝึกไว้ดีแล้วอย่างน้อย 12 ตัว โดยแต่ละตัวต้องมีปลอกคอหนาสามนิ้วมีกระพรวนผูก แล้วก็คอยฟังขณะที่หมามันเห่าตอนที่ตามเหยื่อลงไปในโพรงใต้ดิน แล้วคนตั้งสิบคนซึ่งมีพลั่ว มีเสียมก็คอยขุดตามไปเพื่อเอาเหยื่อนั้นขึ้นมา
หลายศตวรรษที่บาสเซ็ตฮาวนด์หลายจำพวกเวียนไปวนมาอยู่ในฝรั่งเศส แล้วก็วิวัฒนาการไปจนกระทั้งกลายมาเป็นขนเรียบเส้นหยาบๆ ขาตรงบ้าง ขาคดๆบ้างก็มี แม้ในภาคพื้นยุโรปจะรู้จักหมาบาสเซ็ตมาช้านาน ชาวอังกฤษน้อยคนนักจะได้เคยเห็นก่อนปี 1863 คราวที่มีการโชว์หมาครั้งแรกในกรุงปารีส แล้วเข้ามาอวดตัวในอังกฤษอีก 12 ปีต่อมา พันธุ์นี้ก็เกิดเป็นที่ถูกใจ บรรดาเจ้านายอังกฤษต่างก็หลงใหลใฝ่ฝัน ทั้งพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 7 และพระราชินีอเล็กซานดราก็ทรงโปรดด้วยกันทั้งนั้น
พันธุ์สายเลือดที่เห็นกันบ่อยๆ ในสหรัฐนั้นเรียกว่า Le Couteulx ตามชื่อของนักเพาะหมาชาวฝรั่งเศสในศตวรรษที่ 19 มักจะมีสีอย่างฟ็อกซ์ฮาวนด์ต้ังแต่หูที่ตูบห้อยย้อยลงมา ยังกะผ้าม่านกำมะหยี่อันนุ่มนิ่ม ไปจนถึงหาง
ที่ชูตั้งแล้ว ขาสั้นลำ่ม่อต้อสูงกว่าดินไม่กี่นิ้ว แต่ก็ใช่จะเป็นโทษหากแต่กลับเป็นคุณเพราะจมูกอันไวนั้นเองจะอยู่เกือบชิดดิน ช่วงก้าวที่สั้นนี่เองที่พรานพอจะเดินตามได้ทัน ยามที่มันจับกลิ่นสัตว์ได้ นักกีฬาในสหรัฐใช้ล่าหมาจิ้งจอก แร็กคูน โอพอซซัม และกระรอก แต่ที่นับว่าเด่นในคุณภาพของบาสเซ็ตก็คือการไล่ไก่ฟ้าและกระต่ายออกจากที่ซ่อน การเยื้องย่างอย่างไม่รีบร้อนแต่ละเอียดลออในทุ่ง ทำให้สัตว์ไม่แตกตื่น เป็นหมาที่ฝึกได้ง่ายและฝึกให้เก็บนกก็ได้ นิยมเลี้ยงกันเป็นหมาบ้านในสหรัฐ ใครเห็นตาโศกของมันเข้าแล้ว ทนอยู่ไหวหรือที่จะไม่รักมันได้
สูงเพียงไหล่ 11-15 นิ้ว นำ้หนัก 25-40 ปอนด์

วันอังคารที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

กลุ่มพันธุ์ฮาวนด์ บลัดฮาวนด์ Bloodhound


บลัดฮาวนด์ Bloodhound

พันธุ์นี้จัดว่าเป็นชั้นเซียนในหมู่หมาที่ล่าโดยอาศัยกลิ่น เป็นหมาที่มีสีหน้าวางเฉยที่สุดและมีจมูกไวที่สุดของโลกทีเดียว ระบบประสาทการดมกลิ่นอันลำ่เลิศประกอบด้วยปณิธานอันแน่วแน่ ลือเลื่องกันมาแล้วตั้งแต่สมัยโรมันเรืองอำนาจ แต่สายเลือดบลัดฮาวนด์เท่าที่รู้กันมานั้นเริ่มขึ้นเมื่อศตววษที่ 8 จากหมาฮาวนด์พันธุ์แบล็ก แอนด์ แทนคือดำตัดนำ้ตาลที่เรียกกันว่า
แซงต์ฮูแบรต์ ที่เขาเคยใช้ล่าเนื้อกันในป่าอาร์เดนส์ กับอีกพันธุ์หนึ่งที่เรียกกันว่า ทัลโบต์ฮาวนด์ บรรดาเจ้าผู้ครองถิ่นนอร์มันได้นำเอาบลัดฮาวนด์ต้นตระกูลข้ามช่องแคบมาสู่อังกฤษ และในศตวรรษต่อๆ มา ตอนที่วัดอารามทุกแห่งต่างก็มีคอกเลี้ยงหมาของตนไว้นั้น พระชั้นราชาคณะก็นิยมเลี้ยงกัน ต่างก็รักษาเลือดพันธุ์บริสุทธิ์ไว้ จึงได้ชื่อว่า "บลัดฮาวนด์" ซึ่งหมายถึงหมาที่มีสายเลือดบริสุทธิ์แท้
ดร.โยฮัน ไคอุส ผู้รอบรู้ในเรื่องยุคสมัยอลิซาเบท ได้อธิบายไว้ว่าหมา
พันธุ์นี้โดยปกติก็เรียกกันว่า "Bloundhounde"หรือ"Sanguinarius"เพราะความสามารถในเชิงตามรอยกลิ่นเลือดสัตว์ที่บาดเจ็บจากการล่า แม้แต่ตอนที่เกิดโจรลักวัวกันชุกชุมในเขตพรมแดนระหว่างอังกฤษกับสก็อตแลนด์ก็สามารถตามรอยคน(โจร)ได้ไม่ผิดพลาด ในกาลต่อมาหมาบลัดฮาวนด์ ก็แกะรอยตามพวกลักฆ่ากวาง ในเขตวนอุทยานขนาดใหญ่หรือเขตสงวนพันธุ์สัตว์ป่าในอังกฤษ
แม้อังกฤษจะเป็นผู้คัดผู้เพาะพันธุ์นี้ขึ้นมา หมาพันธุ์นี้ก็มีชื่อเสียงสูงสุดและยังรักษาชื่อนั้นอยู่อย่างไม่มีด่างพร้อยในสหรัฐ บางคนรังเกียจหมาพันธุ์นี้แล้วก็วาดภาพให้เห็นความดุร้ายของมันในการเข้าฟัดทาสที่หลบหนีเจ้านาย ซึงความจริงแล้ว หมาบลัดฮาวนด์เลือดบริสุทธิ์นั้นเป็นหมาที่อ่อนโยนที่สุด มักจะขี้อายมากกว่าดุร้าย หมานี้เองที่แกะรอยตามนักโทษที่หลบหนีและสูดดมกลิ่นแก๊สที่รั่วออกจากท่อใต้ดิน แต่หน้าที่หลักของพันธุ์นี้คือ ตามกลิ่นคนเพื่อหาผู้ที่หลงทางหรือผู้ที่กำลังหลบหนี สามารถจับกลิ่นเหงื่อไคลของมนุษย์ที่เอาละลายในนำ้ให้เจือจางถึงหนึ่งในล้านได้ สามารถแกะรอยตามดินชื้น ลมพัดอ่อนอุณหภูมิพอเหมาะ หมาบลัดฮาวนด์จะแกะรอยใหม่ๆ โดยเงยหน้าเสมออก จับกลิ่นเอาในอาศ หากเป็นรอยที่จางกลิ่นเต็มที่แล้วก็จะเอาจมูกและริมฝีปากลงชิดดิน
หัวอันใหญ่โตวัดได้ความยาวกว่า 12 นิ้ว จากปลายจมูกถึงจุดบนกลางหัว(ระหว่างโคนหูที่ชิดกัน) หูที่แลดูยังกับผวยผ้าเมื่อจับกางออกทั้งสองข้างวัดได้ประมาณ 30 นิ้ว หนังที่ย่นยู่ยี่ตามหัวและคอก็ยิ่งย่นหนักเมื่อเวลามันก้มลงดมตามดิน เน้ือตัวที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามนั้นเป็นสีดำและสีแทน หรือแดงและแทน หรือนำ้ตาลปนเหลือง หมาบลัดฮาวนด์รักคนเป็นอย่างยิ่งและประสาทไวยิ่งนัก ชอบอยู่กับคน เมื่อคนแสดงความรักเอ็นดูหรือดุด่าวากล่าวมัน ซึ่งมันจะสำนึกในทันที
สูงเพียงไหล่ 23-27 นิ้ว นำหนัก 80-110 ปอนด์