วันอาทิตย์ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2553

ไวมาราเนอร์ Weimaraner

กลุ่มพันธุ์สปอร์ต พอยน์เตอร์ sporting Group- pointer

ดวงตาสีนำ้เงินหรือสีอำพัน รูปร่างเพรียวและขนเป็นเงาวาววับ ในราชสำนักไวมาร์ได้พัฒนาหมาล่าสัตว์นี้ขึ้นมาเพื่อใช้ในเขตป่าสงวนพันธุ์สัตว์ธูริงเกียน ที่เป็นสายเลือดแรงในการล่าสัตว์ของหมาพันธุ์นี้ก็คือ พันธุ์ไวสต์ชุนเป็นหมาบลัดฮาวด์สีแดงเข้ม พันธุ์ไวมาราเนอร์นี้ในชั้นแรกก็ตามกวาง หมี และหมูป่าที่ดุร้าย พอสัตว์ใหญในเยอรมันนีเหลือน้อยและหายากเข้า ก็เลยหันมาล่าและเก็บนก พันธุ์นี้มาลงตัวเมื่อต้นศตวรรษที่ 1800 แต่ก็เลี้ยงกันอยู่เฉพาะด้วยความหวงแหน จนไม่ค่อยจะรู้จักกันกว้างขวางนอกพื้นถิ่นที่กำเนิด
ผู้ทีเป็นตัวกำหนดชะตาหมาพันธุ์นี้ก็คือสโมสรนักกีฬาและเจ้าของหมาชั้นสูง ซึ่งจะยอมผสมหมาเฉพาะที่มีมาตรฐานชั้นเยี่ยมยอดเท่านั้น และเก็บเอาเฉพาะลูกที่ดีที่สุดเอาไว้ พวก"ผู้คุมการผสมพันธุ์" จะท่องเที่ยวไปทั่วถิ่น โดยบงการว่าลูกหมาตัวไหนจะทำลายเสีย ไม่เลี้ยงไว้ให้เสียพันธุ์ เจ้าของหมาก็ถูกจำกัดไว้ให้เลี้ยงลูกที่เพาะมาได้คราวละ 3-4 ตัว หมาพันธุ์ไวมาราเนอร์ไม่เอาเข้าประกวดโชว์หรือประกวดในทุ่ง และหากสมาชิกสโมสรจำนวนสามคนโหวตว่า "ไม่" แล้ว คนนอกไม่มีสิทธิ์ได้ลูกหมาไปเลี้ยงเลย
ในปี 1929 นายโฮเวิร์ด ไนต์ นักกีฬาจากเมืองโพรวีเด็นต์ โรดไอส์แลนด์ ได้รับอนุมัติให้เข้าเป็นสมาชิกในสโมสรเยอรมันแห่งนี้ จึงเป็นครั้งแรกที่หมาไวมาราเนอร์ได้ตกเข้ามาสู่อเมริกา ตัวแรกที่นำเข้าโรดไอส์แลนด์ และอีก 6 ตัวที่สั่งเข้าไปภายหลัง ได้กลายเป็นต้นตระกูลพันธุ์ที่ดีในอเมริกา
ในปี 1943 สโมสรอเมริกันเค็นเนล ได้ลงมติยอมรับพันธุ์นี้เข้าไว้ในทำเนียบ เจ้านักล่าสีเทาเงินจึงได้ไต่เต้าเป็นหมายอดนิยม และน่าจะกล่าวไว้ด้วยว่าหมาไวมาราเนอร์ชื่อ ไฮดี ของ ดไวต์ ดี.ไอเซนฮาวร์ นับเป็นหมาตัวแรกที่อยู่ในทำเนียบขาว นับตั้งแต่เจ้าตัวของประธานาธิบดี แฟรงกลิน ดี.รุสเวลต์ ซึ่งเป็นพันธุ์สก็อตติ ชื่อ ฟาลา ความมีจมูกแม่นและฉลาดของมัน ทำให้ง่ายแก่การฝึกเจ้าหมาล่าตามลูกเนินที่ทรงพลังชนิดนี้ เป็นหมาโตเร็วและเป็นหมาที่เลี้ยงได้เชื่องมาก เป็นหมาที่ภูมิฐานและรักบ้านรักนายเป็นอย่างยิ่ง
สูงเพียงไหล่ 23-27 นิ้ว น้ำหนัก 55-58 ปอนด์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น