กลุ่มพันธุ์ฮาวนด์ อเมริกัน ฟอกซ์ ฮาวนด์Hound Group American Fox Hound
ขาของหมาพันธุ์นี้เรียวๆ กว่า และตัวเบากว่าอิงลิช ฟ็อกซ์ฮาวนด์ เดอ โซโต ได้นำฮาวนด์ตัวแรกเข้ามายังโลกใหม่เพื่อแกะรอยพวกอินเดียแดง ในปี1650 โรเบิร์ต บรุก ตั้งถิ่นฐานลงในแมรีแลนด์พร้อมด้วยฟ็อกซ์ฮาวนด์ทั้งฝูง ยอร์จ วอชิงตัน นำหมาพันธุ์อังกฤษมาเลี้ยงไว้เมื่อปี 1770 และได้รับของขวัญเป็นหมาล่ากวางพันธุ์ฝรั่งเศสที่มีหูยาวจาก นายพล ลาฟาเเย็ด เมื่อปี 1785 หมาสองพันธุ์ก็เลยผสมกัน และอาจเป็นบรรพสุนัขของอเมริกันฟอกซ์ฮาวนด์ในทุกวันนี้ ชาวแมรีแลนด์และชาวเวอร์จิเนียที่ขี่ม้าได้เก่งแต่ไม่ค่อยชอบแบบฉบับการล่าของอังกฤษยามเมื่อควบตามฝูงหมา พอนักล่าเห็นตัวเหยื่อ ก็มักแหกปากร้องลั่นไปทั้งท้องทุ่ง อาจเป็นต้นกำเนิดของเสียงร้อ
งโห่ยามเมื่อทหารฝ่ายเหนือฝ่ายใต้ประจัญบานกันในยุคสงครามกลางเมืองนั้นเอง
นักควบอาชาที่กวดหมาจิ้งจอกไปตามทุ่งในฟิลาเดลเฟียที่เพิ่งตั้งเมืองใหม่ตลอดจนในไร่ของแมนฮัตตันตอนบน หรือการล่าหมาในบรุกลินนั้นเพิ่งมาสั่งห้ามกันเมื่อไม่ถึง100 ปีมานี้เอง
กีฬาดังกล่าวเป็นแบบฉบับของการล่าหมาจิ้งจอกในรูปแบบต่างๆ แล้วแต่ว่าจะเป็นภูมิภาคไหน ต่างก็มีชื่อของผู้เพาะเลี้ยงรายฉมังๆ ไว้เช่น มอบิน วอล์กเกอร์ ทริกก์ เบิร์ดซอง และอื่นๆ ต่างพวกต่างก็เหมาะกับวิธีล่านั้นๆ
หมาจิ้งจอกในอเมริกานั้นหายากกว่าในอังกฤษ และกลิ่นหมาจิ้งจอกในดงทึบและภูมิประเทศที่เป็นขุนเขาก็ตามยาก ฉะนั้น อเมริกันฟ็อกซ์ฮาวนด์จึงต้องอาศัยจมูกที่ไวและแม่นเป็นพิเศษ หมาที่แกะรอยติด จะตามหมาจิ้งจอกที่ว่องไวรวดเร็วไปไม่ลดละ ฝ่าพื้นภูมิประเทศที่ทุรกันดารไม่ท้อถอย มีฝีเท้าที่เร็วสุดยากที่นักอาชาจะตามทัน นักล่าจะตามได้ถูกก็เพราะเสียงเห่าหอนของมันไปตลอดทาง หมาพันธุ์ฝรั่งเศสของ ยอร์จ วอชิงตันนั้น กล่าวกันว่าร้องเพราะมีกังวานประดุจ "เสียงระฆังในกรุงมอสโก"
ยามคำ่คืน หมาพวกนี้จะตามกลิ่นหมาจิ้งจอกไปจนกระทั่งหมาจิ้งจอกมุดเข้ารูเข้าโพรง มันจะเฝ้าอยู่อย่างนั้นจนกระทั่งเจ้าของเป่าปากเรียกนั้นแหละ มันจึงจะวิงกลับมาไกลเป็นไมล์ๆ เพื่อกลับบ้าน ซ่ึงนับว่าเก่งไม่น้อยที่จับทิศทางกลับบ้านได้แม่น อเมริกันฟ็อกซ์ฮาวนด์นั้น หูยาวและตาโศก มีเสียงหอนที่เพราะ
สูงเพียงไหล่ 21-25 นิ้ว นำ้หนักประมาณ 70 ปอนด์